วันที่ 4 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า จากกรณีที่ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผช. ผบ.ตร. พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ก.9 และ พล.ต.ต.ณฐกรญ์ กาญจนาภรณ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง พร้อมพวก ได้เปิดปฏิบัติการจู่โจมปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายหลายจุดในพื้นที่จังหวัดพัทลุง สามารถตรวจยึด 1.อาวุธปืนเล็กยาว HK 33 ขนาด 5.56 x 4.5 มม. จำนวน 1 กระบอก 2.ซองกระสุนปืน (แม็กกาซีน) ที่บรรจุกระสุนเต็มอัตราพร้อมใช้ อีกจำนวน 5 ซอง กระสุนปืนขนาด ขนาด 5.56 x 4.5 มม. จำนวน 142 นัด และแจ้งผู้กล่าวหาไป 4 ราย ในขณะที่ผู้ต้องหารายที่ 5 คือนายกัมปนาท อ่อนสง สารวัตรกำนัน ต.วังใหม่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ยังไม่มาพบกับพนักงานสอบสวนของ สภ.ตะโหมดตามการแจ้งข้อกล่าวหาของตำรวจกองปราบ กก.6 บก.ป โดยเหตุเกิดเมื่อตอนเช้าวันที่ 30 พ.ย.66 ในขณะที่นายพรพนม จันทรเทพ นายอำเภอป่าบอน ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้น 1 ชุด เพื่อเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว พร้อมแจ้งให้นายพันธการต์ เพชรตีบ กำนัน ต.วังใหม่ อ.ป่าบอน เพื่อให้นำนายกัมปนาท เดินทางเข้าพบกับพนักงานสอบสวน สภ.ตะโหมด เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอนต่อไป ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ในขณะนี้นายกัมปนาทยังไม่เข้ามาพบพนักงานสอบสวนตามความผิดในข้อกล่าวหาของตำรวจชุดจับกุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย.66 แต่อย่างใด ในขณะเดียวกันทางพนักงานสอบสวน สภ.ตะโหมด ก็ยังรอเอกสารและหลักฐานเพิ่มเติมจากตำรวจชุดจับกุม และเมื่อนายกัมปนาทเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.ตะโหมด ก็จะได้สอบปากคำนายกัมปนาท หากพบว่ามีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาของตำรวจชุดจับกุมทางพนักงาน สภ.ตะโหมด ก็จะดำเนินการแจ้งข้อหา ฐานความผิดให้การช่วยเหลือผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้ที่พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดๆ เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ตามขั้นต่อไป
 

ในขณะเดียวกันทาง สภ.ตะโหมด ก็ได้มีหมายเรียกให้นายกัมปนาทมาพบพนักงานสอบสวนแล้ว หากมีหมายเรียกไปแล้ว 2 ครั้งหากนายกัมปนาทยังไม่มาพบพนักงานสอบสวน ทางพนักงานสอบสวนก็จะยื่นขอหมายจับจากศาลจังหวัดพัทลุงเพื่อจับกุมนายกัมปนาทต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าสาเหตุสำคัญที่นายกัมปนาทไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.ตะโหมด เพื่อสอบปากคำตามข้อกล่าวหาของตำรวจชุดจับกุม เมื่อวันที่ 30 พ.ย.66 นั้น น่าจะมาจากสาเหตุที่กลัวว่าจะถูกตำรวจจับกุมตัว เนื่องจากก่อนหน้านี้ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้อนุมัติหมายจับกุมตัวนายกัมปนาท ตามหมายจับที่ จ.481/2566 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ตามความผิดฐาน ร่วมกันกระทำการใดๆให้ผู้คุมขังซึ่งเป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาจากศาลให้ลงโทษตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปหลบหนี ซึ่งในขณะนี้ทางนายกัมปนาทยังอยู่ในระหว่างการหลบหนีการจับกุมของศาลจับของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชดังกล่าว

 ขณะที่ สืบศักดิ์ 1 ใน 5 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ในการช่วยเหลือเสี่ยแป้งล๊อตที่ 2 ปัดขับเก๋งช่วยเหลือหลบหนี เผย เสี่ยแป้ง พูดทุกอย่างคือความจริง ที่ผ่านมาเจ้าตัวเคยตัดพ้ออยากตาย -ให้มารับศพที่เรือนจำ หากไม่มีโอกาสออกมาทวงความยุติธรรม ลั่นไม่เคยฝากเพื่อนแก้แค้นแทน ยืนยันต้นเหตุแหกเรือนจำมาจาก อัยการบอย ประธานติ่ง ไม่ฟันธงเจ้าตัวจะออกมามอบตัวหรือไม่ เชื่อโตแล้วเขาคงคิดได้
 
 
 โดยผู้สื่อขข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับทางด้าน นายสืบศักดิ์ แสงจันทร์ อายุ 37 ปี 1 ในบุคคลที่โดนตำรวจตั้งข้อหาช่วยเหลือ เสี่ยแป้ง หลังเหตุปะทะ และมีข้อมูลว่าเป็นบุคคลที่ขับขี่รถเก๋งวีออสคันที่พาเสี่ยแป้งหลบหนี ก่อนที่ทางเจ้าตัวเองจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและมีการประกันตัวออกมาสู้คดี

ซึ่งทางนายสืบศักดิ์ เปิดใจว่า ส่วนตัวรู้จักกับทางด้านเสี่ยแป้งและเพื่อนสนิทมาตั้งแต่เด็ก ทางเสี่ยแป้งเองสมัยก่อนก็มักจะมาเล่นที่บ้านของตนเป็นประจำ และมีความสนิทสนมค่อนข้างมาก จนถึงปัจจุบันก็ยังไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัว ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นบุคคลที่ขับรถพาเสี่ยแป้งหลบหนี ตามที่ได้มีการนำเสนอไปก่อนหน้านี้ ยืนยันทุกอย่างตนเองมีหลักฐานพร้อมสู้กันไปตามคดี เมื่อทีมข่าวสอบถามว่าในส่วนกรณีที่ตำรวจเข้ามาและมีการตั้งข้อหา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้เหตุผลหรือได้มีการให้ดูหลักฐานว่าเราเองมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่ ทางเจ้าตัวยอมรับว่าทางเจ้าหนี้ตำรวจเองก็มีหลักฐานในมุมของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตนเองก็ยังยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทุกอย่างเรื่องรายละเอียดตนเองได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว ตลอดจนยืนยันว่าวันที่เกิดเหตุในช่วงที่ทางเสี่ยแป้งหลบหนี ตนเองก็อยู่บริเวณละแวกแถวบ้านขับรถไปมารวมถึงได้ไปอยู่ในส่วนของบ้านเจ้านายหรือนายทนงศักดิ์ที่โดนตั้งข้อหา ในส่วนนั้นตนเองก็มีหลักฐานกล้องวงจรปิดในช่วงจังหวะที่ตนเองอยู่ที่บ้านของนายทนงศักดิ์ ทุกอย่างอยู่ในสำนวนและคดี ตนเองออกมาพูดได้ในมุมที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องส่วนรายละเอียดลึกๆ ตนได้ให้ข้อมูลกับทางตำรวจไปแล้ว
 

รับรู้สึกตกใจและกังวลหลังจากที่โดนตั้งข้อหา แต่ก็พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เผยส่วนตัวปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่รู้จักกับทางเสี่ยแป้ง เพราะตนคุ้นเคยและสนิทมาตั้งแต่เด็กคำว่าเพื่อนไม่สามารถตัดได้ ทั้งนี้ตนเอง ทราบเรื่องดีว่าเหตุการณ์ที่ทางเสี่ยแป้งออกมานั้นเพราะเหตุอะไร

ยืนยันว่าก่อนที่ทางเสี่ยแป้งต้องโทษ รวมไปถึงในช่วงจังหวะที่ตนได้มีโอกาสไปเยี่ยมเสี่ยแป้งในขณะที่ต้องโทษอยู่ในเรือนจำ ทางเสี่ยแป้งมักจะพูดและระบายกับตนมาตลอด พร้อมกับเล่าถึงเรื่องราวที่ทำให้เขาต้องติดคุก สาเหตุมาจากกรณีที่เขาได้พูดตามคลิป ก็คือเรื่องของจรวด และอัยการบอย ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้เค้าเองต้องโทษทั้งที่ไม่ได้รู้เรื่อง

 ย้ำเสี่ยแป้งเล่าให้ฟังมาตั้งแต่แรกว่าเค้าไม่ทราบว่าเหตุการณ์วันนั้นที่มีการชิงตัวผู้ต้องหา บุคคลที่จับกุมนายจรวดไปคือตำรวจ เค้าพึ่งมาทราบภายหลังและรู้สึกตกใจเพราะหากเป็นตำรวจจริงเขาคงทำแบบนี้ ซึ่งเรื่องราวและรายละเอียดเหตุการณ์ในวันนั้นก็ต้องย้อนกลับไปถามทางบุคคลที่ถูกพาดพิงภายในคลิปว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
 
 
เผยก่อนหน้านี้ตนเองได้มีโอกาสไปเยี่ยม เสี่ยแป้งขณะที่ต้องโทษ ยอมรับว่าเขาเองค่อนข้างเครียดและกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทุกครั้งที่มีโอกาสได้พูดคุยกับเขาเองจะระบายปัญหาดังกล่าว และตัดพ้อว่าอยากตาย
 

ตอนนั้นเขาพูดตลอดว่าไม่อยากอยู่ในเรือนจำ ถ้าไม่ได้ออกมาสู้กับความยุติธรรมที่โลกภายนอก เขาบอกจะผูกคอตายในเรือนจำ เพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่ อัยการบอย ประธานติ่ง และจรวด ทำ ถึงขั้นบางครั้งที่ทางเสี่ยแป้งเอง เคยฝากบอกเพื่อนๆ ว่ารับศพจากเรือนจำกลับไป เพราะเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่ ซึ่งพอตนได้ยินแบบนั้นในฐานะเพื่อนก็อดสงสารเขาไม่ได้ แต่สิ่งที่เพื่อนคนหนึ่งทำได้คือการจับบ่าและปลอบใจ ว่าสักวันหนึ่งกระบวนการยุติธรรมจะต้องมีช่องว่างให้เราออกมาต่อสู้ พร้อมให้อดทนสู้ ให้อยากเขาสู้คดี ไม่อยากให้เขาต้องคิดว่าอยากจะตาย

และวันนี้เองตนก็ไม่อยากให้เขาทำแบบนี้ในการหนีความผิดและออกมาสู้แนวทางนี้ ตนอยากให้เขาสู้โดยใช้ความอดทนและความพยายามเพราะเชื่อว่าอย่างน้อยสักวันก็คงจะจะมีหนทางให้เขาสู้ได้ตามกระบวนการ เผยที่ผ่านมาทางเสี่ยแป้งเองไม่ได้มีการฝากให้กลุ่มเพื่อนหรือบุคคลบุคคลอื่นที่อยู่ภายนอกออกมามาทวงความยุติธรรมให้กับเขา เพราะลักษณะและนิสัยของเขาจะเป็นคนที่เก็บ เรื่องราวทุกอย่างไว้ด้วยตัวเอง และมักจะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง และเขาเองก็มักจะเก็บความลับไว้ที่ตัวของเขา
 
 
ส่วนถาม ว่าหลังจากนี้ทางเสี่ยแป้งจะออกมามอบตัวหรือไม่ ตนเองในฐานะเพื่อนก็ไม่สามารถพูดหรือตัดสินใจแทนเขาได้ มองว่าเขาเองก็โตแล้ว คิดอะไรจะทำอะไรก็ให้คิดดีๆ และรอบคอบมากกว่าเดิม ตนทำได้แค่ตอนนี้คือส่งความห่วงใยในฐานะเพื่อน ก็อยากให้เขาดูแลสุขภาพ มองเหตุการณ์และสิ่งที่เขาทุกข์อยู่ทุกวันนี้ มาจากเรื่องของเพื่อนและบุคคลอื่นเป็นหลัก ไม่ใช่เรื่องของเขาโดยตรง