เมื่อวันที่ 18 ธ.ค 66  ร.ต.ท.หญิง ปัณณภัทร์ คุ่มเคี่ยม รอง สว.(สอบสวน) สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้นำตัวนายฤทธิพร อายุ 21 ปี (พ่อเลี้ยง) ผู้ต้องหา ทำร้ายผู้อื่นเป็นเกตุถึงแก่ความตาย ส่งศาลอาญาจังหวัดสมุทรปราการ เป็นฝากแรกเวลา 12 วัน กำหนดโทษ จำคุกตั้งแต่ 3 ถึง 15 ปี ขณะเดียวกันได้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณกว่า 10 คน ได้เข้ามารุมทำร้ายและประชาทัณฑ์นายฤทธิพร ผู้ต้องหา พ่อเลี้ยงที่ทำร้ายน้องโฟกัสถึงขั้นเสียชีวิตเพราะโกรธแค้นแทนครอบครัวแม่น้องโฟกัส ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องระดมกำลังคุ้มกันและรีบนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหาและรีบนำตัวขึ้นรถไปส่งศาลอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้จากการสอบสวนนายนายฤทธิพร อายุ 21 ปี ให้การว่า  อยากจะบอกว่าตนเองรักลูก และยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นคนทำร้ายลูก คนที่ทำร้ายน้องโฟกัสลูกสาวถึงชีวิต คือตัวพี่เลี้ยงเอง  โดยก่อนเกิดที่น้องโฟกัสหมดสติไปตนได้ยินเสียงดังแอ๊ก จากนั้นตนเองจึงลุกขึ้นไปดู จึงเห็นว่าลูกอ้วกและหยุดหายใจตนเองจึงเอาลูกไปล้างน้ำในห้องน้ำ  โดยล้างตัวลูกปกติ โดยตนเองยอมรับว่าตีลูกโดยใช้สายยาง ในห้องน้ำเพียงเบาๆ และจากนั้นก็เตะเพียงเบาๆ เท่านั้น ที่ทำเพราะรักบอกลูกแล้วครับว่าเป็นการสั่งสอน ไม่ได้ตีเพราะความโมโห ซึ่งตนเองก็ยอมรับว่าเคยตีลูกแต่ไม่ได้ใช้ความรุนแรง อยากบอกว่ารักลูกมากรักเหมือนลูกแท้ๆ ภรรยาของตนเองก็รักและไม่โกรธ ซึ่งตนรักทั้งคู่ สุดท้ายนี้ตนเองยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำให้น้องเสียชีวิต และยืนยันว่าผู้ที่ทำให้น้องเสียชีวิตคือ next พี่เลี้ยงที่อายุ 16 โดยไม่รู้ว่าทำอย่างไรเพราะเรานอนห่างกัน ที่นอนเพราะต้องรีบตื่นไปรับเมีย และในคืนนั้นตนเองก็ไม่ได้เมา

จากการสอบถามน.ส.แพรวา อายุ 19 ปี (แม่น้องโฟกัส) ได้เล่าให้ฟังว่า  ลูกหนูเขาติดพูดแม่...นิกตีหนู โดยน้องโฟกัสพูดแบบนี้ทั้งวัน แล้วจะไม่ให้หนูคิดได้อย่างไรว่าไม่ใช่พี่เลี้ยง บางทีน้องก็พูดว่าแม่ดูป๊าสิป๊าทำหนูอีกแล้ว หนูก็ไม่ได้เข้าข้างใคร ส่วนความคิดที่ว่าพี่เลี้ยงและพ่อเลี้ยงเด็กร่วมมือกันหรือไม่นั้นก็อาจจะเป็นไปได้ เมื่อเช้าหนูก็มาแล้วถาม น้องนิคหรือพี่เลี้ยงไปว่า เมื่อมึงเห็นมันทำทำไมมึงไม่ห้าม พี่เลี้ยงบอกว่าถ้าผมห้ามผมก็โดนด้วย มึงโดนด้วยมึงก็ยังสู้ได้ ลูกหนู 2 ขวบมันจะช่วยอะไรได้ โดยส่วนตัวมองว่าพี่เลี้ยงและพ่อเลี้ยงสนิทกันเนื่องจากเขารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ อยากให้น้องกลับมาเกิดอีกครั้ง และแม่ขอโทษด้วยที่ดูแลหนูได้แค่นี้ ถ้าลูกยังอยู่ในวันนี้ลูกหนูน่าจะเตรียมเข้าโรงเรียนแล้ว

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจำเชิญตัวพี่เลี้ยงเด็กมาสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริงตามที่พ่อเลี้ยงเด็กกับแม่เด็กพูดหรือไม่เพื่อตรวจสอบหาหลักฐานตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.