เมื่อวันที่ 26 มค. 2567 นส.ณัฐนันท์ สายสอน ปลัดอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช รรท.นายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราชได้สั่งการให้ นายศุภโชค ช่วยคุ้ม ปลัดอำเภอ หน.ฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยนายอธิราช โรจน์ดวง ปลัดอำเภอเมือง พร้อมด้วยจนท.อส.ชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช วางแผนล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้าหลังจากได้มีชาวบ้านร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่ามีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเยาวชนและวัยรุ่น จนเป็นที่นิยมของกลุ่มวัยรุ่นแพร่หลาย บริเวณศูนย์การค้าบูรพาพลาซ่า จึงนำกำลังจนท.ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองไปตรวจสอบและวางแผนล่อซื้อทันที พบมีร้านค้าร้านหนึ่งลักลอบเปิดขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างโจ๋งครึม จึงเข้าทำการจับกุมนายธีรวัฒน์ (สงวนนามสกุล) เจ้าของร้าน พร้อมของกลางบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 465 ชิ้น โดยแบ่งเป็นหัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 386 ชิ้น น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 41 ชิ้น บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง 38 ชิ้น

จากนั้นได้จึงคุมตัวนายธีรวัฒน์ ดำเนินคดี1. ขายสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 ลงวันที่ 28 มกราคม 2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติม บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” อันเป็นความผิดตาม มาตรา 56 ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
         
2.ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านวิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง อันเป็นความผิดตามมาตรา 246 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ต้องระวางโทษจําคุก ไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของ  ซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วหรือทั้งจำทั้งปรับ