วันพุธ ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 00:54 น.

อาชญากรรม

รวบยกแก๊ง 5 โจรปล้นร้านทองในห้างดังไชยามูลค่า 1.3 ล้าน อึ้งเด็ก 14-15 ร่วมด้วย

วันพฤหัสบดี ที่ 01 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567, 15.26 น.

จากกรณีเกิดเหตุคนร้าย 2 คน ใช้อาวุธปืนขนาดจุด 38 จำนวน 3 กระบอกบุกชิงทรัพย์เป็นทองคำร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ในห้างเทสโก้โลตัส สาขาไชยา ริมถนนทางหลวงเอเชีย 41 ต.เลม็ด (อ่านว่า ละ-เม็ด) อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ท่ามกลางลูกค้าจับจ่ายซื้อสินค้าอยู่ให้โลตัสจำนวนมาก  ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยทองคำรูปพรรณ จำนวน 40 เส้น น้ำหนัก 33.5 บาท มูลค่าประมาณ 1.3 ล้านบาท  โดยนำรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้งคลองชลประทานบ้านในไร่ หมู่ที่ 3 ต.เวียง อ.ไชยา ห่างที่เกิดเหตุประมาณ 3.7 กิโลเมตร แล้วหลบหนีไป  เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2567 นั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8 )พร้อมด้วย   พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ รอง ผบช.ภ.8,  พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8, พล.ต.ต.เสริมพันธุ์   ศิริคง  ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมกำลังตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหา 4 คนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุประกอบด้วย 1.นายสรายุทธ หรืออิฐ อายุ 38 ปี พื้นเพเดิมเป็นชาว จ.สุราษฎร์ธานี หัวหน้าแก๊ง ทำหน้าที่บุกปีนเข้าไปกวาดเอาทอง 2.นายภูวดล  อายุ 18 ปี ถืออาวุธปืน 2 กระบอกทำหน้าที่คุ้มกันก่อเหตุ 3.นายอโนชา หรือบอล อายุ 33 ปี ทำหน้าที่ดูเป้าหมาย 4.ชายอายุ 15 ปี ทำหน้าที่ดูต้นทาง ส่วนคนที่ 5.ดช. อายุ 14 ปี ทำหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์มารับคนร้ายที่จุดทิ้งอำพรางรถในคลองยังจับตัวไม่ได้

พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 กล่าวว่า คดีนี้ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ  บก.สส.ภ.8 ร่วมกับ กก.5 ป.,กก.สส.ภ.จว. สุราษฎร์ธานี และ สภ.ไชยา เร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยพบว่ามีคนร้าย ทั้งหมด 5 คน ซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 14-15 ปีอยู่ 2 คน ทั้งหมดเป็นชาว อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี  จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับและหมายเรียกในข้อกล่าวหาร่วมกันปล้นทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม

จากการสืบสวนทราบว่า นายสรายุทธ ซึ่งก่อนหน้านี้อาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นหนี้พนันออนไลน์ 2 ล้านบาท จึงเดินทางกลับมายัง จ.สุราษฎร์ธานี และคิดปล้นร้านทองหาเงินใช้หนี้ แต่ไปดูลาดเลาแล้วไม่สามารถลงมือได้ จึงมาบอกนายอโนชา หรือ บอล ซึ่งเป็นญาติและมีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติด ให้ร่วมก่อเหตุ และได้ชักชวนกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นลูกน้องส่งยาเสพติดอยู่แถวชุมชนใต้โค้ง ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน ร่วมก่อเหตุแบ่งหน้าที่กันทำงาน ซึ่งนายสรายุทธ คนวางแผนและตัวการสำคัญหลบหนีตามไปจับกุมได้ที่ อ.แกดำ จ.มหาสารคาม อีก 3 คนจับได้ในพื้นที่ อ.พุนพิน และเหลือเยาวชนอายุ 14 ปีจะได้ตัวเร็วๆนี้

“ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันวางแผนโดยมาดูเป้าหมายก่อนลงมือก่อเหตุ 1 สัปดาห์ หลังก่อเหตุได้แยกย้ายกันหลบหนี และนำทองคำที่ปล้นมาได้ไปขายที่กรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออก จากนั้นนำทองคำและเงินที่ได้จากการขายมาแบ่งกัน โดยตำรวจใช้เวลา 10 วันสามารถปิดคดีได้ซึ่งนายสรายุทธ ตัวหัวโจกเป็นผู้ชักชวนชี้นำเยาวชนที่เปราะบางมีปัญหามาจากครอบครัวร่วมก่อเหตุด้วยความฮึกเหิมและคึกคะนอง เป็นที่น่าวิตกห่วงใยมาก ” พล.ต.ท.สุรพงษ์ กล่าว

 

หน้าแรก » อาชญากรรม