เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 26 ก.พ.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี  พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีคนงานก่อสร้างทะเลาะวิวาทใช้มีดแทงกันเสียชีวิต เหตุเกิดภายในแคมป์พักคนงานก่อสร้าง ที่ตั้งอยู่ในกรมชลประทานปากเกร็ด ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จากนั้นจึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบร่างของนายเอม เมน อายุ  33 ปีคนงานชาวเมียนมาร์นอนเสียชีวิตอยู่บนโต๊ะหน้าทางเข้าออกของแคมป์คนงานก่อสร้าง มีบาดแผลถูกแทงเข้าที่หน้าอกซ้ายและแก้มซ้ายรวม 2 แผล ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายไซ เมา เมา อายุ 23 ปี ชาวเมียนมาร์ หลังเกิดเหตุได้ถืออาวุธมีดไปมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ รปภ.ทางเข้า-ออกของกรมชลประทาน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังพบตัวนายโก ตั้ง อายุ  25 ปีหน้าตาปูดบวม นอนไม่ได้สติอยู่บนห้องพัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องช่วยเหลือนำตัวลงมาเพื่อส่งโรงพยาบาล

นายประพันธ์ อ่อนสำฤทธิ์ อายุ 50 ปี รปภ.ประจำแคมป์พักคนงสนกล่าวว่า 2 กลุ่มนี้ได้เกิดมีปากเสียงลงไม้ลงมือกันไปแล้วถึง 2 ครั้งโดยตนเองมาทำการห้ามและไล่กลับไปที่พักแล้วทั้ง 2 คร้้งโดยทั้ง 2 กลุ่มเป็นคนงานอยู่คนละบริษัทกัน จนกระทั่งครั้งที่ 3 เข้าใจว่ากลุ่มของคนแทงคือนายไซ เมา เมา ได้แอบย่องเข้ามาจากด้านข้างของสถานที่ก่อสร้างโดยไม่ผ่านประตูและนำมีดที่พกมาด้วยแทงกลุ่มคู่อริที่นั่งกันอยู่ 3 คนบริเวณลานกว้างเป็นเหตุให้นายเอม เมน เสียชีวิต หลังจากนายไซเมา เมา ก่อเหตุแล้วได้วิ่งไปพร้อมอาวุธมีดไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ รปภ.ที่อยู่ทางเข้า-ออกกรมชลประทาน ส่วนคนที่เสียชีวิตได้มีเพื่อนช่วยกันแบกกันออกมานอนที่โต๊ะหวังจะนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่ก็เสียชีวิตแล้ว

จากการสอบสวนนายไซ เมา เมา โดยผ่านล่ามได้ความว่าตนเองและเพื่อนรวม 3 คนได้นั่งดื่มสุรากันอยู่ที่ห้องพักจนกระทั่งนายโก ตั้ง เมามากจึงได้พามาส่งที่ห้องพักซึ่งอยู่ห่างกัน แต่ในระหว่างทางเดินผ่านกลุ่มของนายเอม เมน ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่ที่ลานกว้างและเกิดพูดจาไม่เข้าหูเป็นเหตุให้ชกต่อยกันทำให้นายโก ตั้ง บาดเจ็บหลังจากนั้นจึงได้นำตัวนายโก ตั้ง ขึ้นไปนอนที่ห้อง ส่วนตนก็กลับลงมาและมีปากเสียงอีกครั้งเป็นรอบที่ 2 และแยกย้ายไป หลังจากนั้นได้กลับไปที่ห้องเพื่อไปเอามีดและย้อนกลับมาเป็นรอบที่ 3 โดยใช้มีดแทงนายเอม เมน ซึ่งเป็น 1 ในกลุ่มคู่อริจนเสียชีวิตดังกล่าว

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องได้ทำการสอบถามโดยการผ่านล่าม ซึ่งก็ยังไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากผู้ก่อเหตุยังให้การ วก วน ซึ่งเหตุการณ์นี้ยังมีผู้ร่วมก่อเหตุที่ทะเลาะวิวาทกันอีกและยังไม่พบตัวทั้งหมดซึ่งจะต้องทำการสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ส่วนผู้เสียชีวิตได้มอบให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนําส่งสถาบันนิติวิทยาศาตร์เพื่อชันสูตร ต่อไป