วันที่ 28 มี.ค. พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 สอท.5 สืบทราบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนได้แอบมาเปิดห้องพักโรงแรมดังในตลาดจันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช จึงนำกำลังตำรวจไปตรวจสอบ ภายในฟ้องพักขนาดใหญ่พบมีการจัดวางโต๊ะ เก้าอี้และเครื่องคอมพิวเตอร์ สำหรับนั่งปฏิบัติการ 3-4 ชุด   โทรศัพท์มือถือ 60 เครื่อง เครื่อพริ้นและวัสดุอุปกรณ์จำนวนมาก โดยพบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนอยุ่ภายในห้องจำนวน 11 คน เป็นผู้ชาย 10 คน ผู้หญิง 1 คน จึงควบคุมตัวเอาไว้ได้ทั้งหมด พร้อมตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ วัสดุอุปกรณ์ต่าง ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมกลางส่งมอบพนักงานสอบสวน สภ.ฉวาง เพื่อลงบันทึกประจำวันและดำเนินคดกีตามกฎหมายต่อไป
  
โดยวันที่ 29 มี.ค. เวลา  13 .00 น. พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 สอท.5 พร้อม(บังคับบัญชาใน บช.สอท. จะร่วมกับตำรวจภูธรนครศรีธรรมราชและ สภ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช กับสื่อมวลชนที่ สภ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช
  
อย่างไรก็ตามคาดว่าในการบุกจับกุมในครั้งนี้มีสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน แก๊งเดียวกันนี้สามารถหลบหนีการจับกุมไปได้เกือบ 10 คนทั้งนี้เพราะชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณบ้านหนองดี หมู่ 1 ต.ทุ่งสง อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช แจ้งข้อมูลเบาะแสกับศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.ว่ามีชาวจีนประมาณ 7-8 คนผิวขาว  อายุไม่เกิน 30 ปีสะพายกระเป๋าเป้ วิ่งหนีลุกลี้ลุกลนเข้าไปหลบซ่อนตัวในสวนยาง สวนปาล์ม  ในขณะที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสอบถามชาวบ้านและพนักงานในปั้มน้ำมันริมถนนสายเอเซีย 41 ว่าเห็นกลุ่มชายวัยรุ่นชาวจีนวิ่งหนีผ่านมาบ้างหรือไม่  พนักงานปั้มและชาวบ้านได้ให้ข้อมูลเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ แต่คาดว่าเจ้าหน้าที่เขาไปติดกตามคนหาเพื่อจับกุมตัว แต่ค้นหาไม่พบตัว  แต่หลังจากนั้นชาวบ้านไปพบสอบถามแต่คุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะชาวจีนเหล่านั้นพูดแต่คำว่า โน โน หลังจากนั้นในช่วงใกล้ค่ำ วัยรุ่นชาวจีน 3-4 คนได้ดินออกมาและเข้าไปใช้บริการในร้านโทรศัพท์ ก่อนจะออกจากร้านและเดินหายไป ตอนนี้ไม่ทราบว่าชาวจีนกลุ่มดังกล่าวไปอยู่ที่ไหน.