วันอาทิตย์ ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 10:50 น.

อาชญากรรม

เตรียมออกหมายจับนักการเมืองท้องถิ่นดัง อยู่เบื้องหลังแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน-ไทย

วันเสาร์ ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2567, 07.20 น.

ผู้ช่วย ผบ.ตร.นำทีมแถลงผลงานตำรวจไซเบอร์ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทาร่วมกับคนไทย จำนวน 90 ราย มาตั้งฐานปฏิบัติการในพื้นที่ 2 อำเภอของ จ.นครศรีธรรมราช ทั้งที่ ต.จันดี อำเภอฉวาง และ อำเภอนาบอน ได้หลักฐานพร้อมของกลางจำนวนมากหลายรายการ -เร่งสอบสวนขยายผลจับกุมและยึดทรัพย์นักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่อยู่เบื้องหลังจนร่ำรวย

 


เมื่อเวลา 17.00 น..วันที่ 29 มีนาคม ที่ศาลาประชาคมอำเภอฉวาง จ.นครศรีธรรมราช พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผช.ผบ.ตร.พร้อมพล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8, พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรี วงษ์ชัย ผบก.สอท. 5, พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้ร่วมแถลงข่าวผลงานของ พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 สอท.5 หรือตำรวจไซเบอร์ ได้สืบทราบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนได้แอบมาเปิดห้องพักโรงแรมดังในตลาดจันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราชและ อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช จึงมีการสนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ เจ้าหน้าที่จาก DSI, กสทช. ตม. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ และตำรวจสืบสวนนครศรีธรรมราชและสภ.ฉวาง รวมจำนวนกว่า 100 นาย นำหมายค้นของศาลอาญา จำนวน 4 หมายเข้าตรวจค้นพื้นที่ 4 จุดในพื้นที่ตำบลจันดี อ.ฉวาง และ อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช เพื่อจับกุมแก๊งคอลเซนเตอร์ ทั้งชาวไทยและชาวจีน ซึ่งผลการตรวจค้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนและคนไทยได้รวมจำนวน 90 คน แบ่งเป็นคนไทย 35 คน คนจีน 55 คน พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก

 


 

โดย เมื่อ 28 มีนาคมที่ผ่านมา จากการสืบสวนของ บช.สอท.หรือตำรวจไซเบอร์ และกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ว่ามีกลุ่มคนจีนจำนวนมากและคนไทย มารวมกลุ่มกันเช่าโรงแรมและบ้านพักในท้องที่ อำเภอฉวาง และท้องที่ อำเภอนาบอน จ.นครศรีธรรมราช โดยมี พฤติการณ์น่าสงสัยรวมตัวลักษณะปกปิดวิธีการดำเนินการ โดยมุ่งหมายกระทำการอันมิชอบด้วยกฎหมาย โดยมีเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ จำนวนมาก และมีการใช้สัญญาณสื่อสาร และไฟฟ้าจำนวนมากผิดปกติลักษณะ เป็นกลุ่มอาชญากรร่วมกระทำผิด จึงได้นำหมายค้นของศาลอาญา เข้าทำการตรวจค้น 4 จุดด้วยกัน จุดแรกโรงแรมจินเฮง เลขที่ 567 หมู่ 3 ต.จันดี อ.ฉวาง จุดที่ 2 อาคารพาณิชย์ 2 ชั้นติดกัน 3 หลัง ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทฝ่านยาการค้าระหว่างประเทศ หมู่ 3 ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช จุดที่ 3 หมู่บ้านจันดีแกรนวิลล่า เลขที่ 825,826,827 หมู่ 3 ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช และจุดที่ 4 โกดังร้านฟูจิ เสื้อผ้ามือสอง ต.นาบอน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช

 



ผลการตรวจค้นพบ ผู้ต้องหา 90คนดังกล่าวและยึดของกลาง ดังนี้ 1.คอมพิวเตอร์ จำนวน 228 เครื่อง 2.โทรศัพท์ มือถือ จำนวน 1,037 เครื่อง 3.ไอแพด จำนวน 4 เครื่อง 4.เราท์เตอร์ wifi จำนวน 1 เครื่อง 5.เครื่องประมวลผล (CPU) จำนวน 2 เครื่อง 6.ยูเอสบี จำนวน 2 อัน 7.ชิมโทรศัพท์มือถือ จำนวน 521 ชิม 8.สมุดบัญชี จำนวน 80 เล่ม 9.บัตรเครดิต จำนวน 2 ใบ 10.อาวุธปืนยาว จำนวน 1 กระบอก 11. สินค้าไม่ผ่านการเสียภาษีศุลกากร จำนวนมาก

 
ทั้งนี้พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำผิดในลักษณะแก๊ง Call Center หลอกผู้เสียหายและมีการแชท สนทนากับลูกค้าโดยใช้ภาษาไทย ภาษาจีน และภาษารัสเซีย โดยใช้จุดตรวจค้นดังกล่าวเป็นสำนักงานในการหลอกลวงผู้เสียหายที่อยู่ต่างประเทศ โดยในแต่ละจุดเกิดเหตุ ได้มีการตรวจพบหนังสือเดินทางคนจีน มีการเดินทางเข้า-ออกประเทศกัมพูชาบ่อยครั้ง และพบโทรศัพท์มือถือในการส่งลิงค์เพื่อให้มีการคลิกลิงค์ ซึ่งพฤติการณ์มี ลักษณะคล้ายแก๊ง Call Center ที่ผ่านมา

 
โดยพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหา จำนวน 90 ราย ดังกล่าว มีลักษณะเป็นความผิดฐานเป็นสมาชิกของคณะ บุคคลซึ่งปกปิดวิธีการดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นกระทำความผิด ฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ ช่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209, 210 และความผิดตามกฎหมายคนเข้าเมือง และกฎหมายศุลกากร

 

 

พล.ต.ท.ธัชชัย ได้แถลงตอนท้ายว่า ขณะผลการสอบสวนขยายผลทราบว่ามีนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งในพื้นที่ อยู่เบื้องหลังแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้จนร่ำรวยนับร้อยล้านบาทอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับเพื่อทำการจับกุมและตามยึดทรัพย์ต่อไปแล้ว

 
ล่าสุด พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ข้าราชการตำรวจ หรือพนักงานสอบสวน นครศรีธรรมราช จำนวน 19 นาย ไปปฏิบัติหน้าที่งาน สอบสวนเป็นคณะสอบสวนคดีสำคัญดังกล่าวข้างต้นของ สภ.ฉวาง ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2567 จนเสร็จสิ้นภารกิจ.

หน้าแรก » อาชญากรรม