วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (บก.ภ.จว.นครพนม) นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนนครพนม และเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง แถลงผลกงานการสกัดจับกุม ตรวจค้น รถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า 2 สีขาว ทะเบียน กบ 6502 เพชรบูรณ์ บริเวณถนนในหน้า อบต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เมื่อคืนวันที่ 30 เมษายนต่อเนื่องถึงวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา

หลังชุดปฏิบัติการสืบทราบ ว่า เป็นรถยนต์ต้องสงสัย เข้ามารับยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน จ.นครพนม เพื่อส่งต่อไปยังพื้นที่ตอนใน ตรวจค้นในฝาท้ายรถพบเฮโรอีน จำนวน 189 แท่ง บรรจุในแพคเกจก้อนสี่เหลี่ยม มีตราสัญลักษณ์สิงต์โตคู่เหยียบลูกโลก มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ และภาษาจีน น้ำหนักรวมประมาณ 75 กิโลกรัม จับกุมคนขับคือนายพัลลภ อายุ 36 ปี ชาว อ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ

นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือผู้ต้องหา มีการโทรประสานงานกับทีมดูแลเส้นทาง พร้อมจับพิกัดการเดินทาง (GPS) จึงซ้อนแผนเข้าจับกุม พบสัญญาณ GPS เพื่อนร่วมขบวนการ อยู่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณทางเข้าสนามบินนครพนม ถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 22 สายนครพนม-สกลนคร ห่างจากจุดที่จับกุมตัวนายพัลลภเกือบ 30 กิโลเมตร จึงประสานตำรวจ สภ.เมืองนครพนม ร่วมปฏิบัติการ สามารถควบคุมตัวได้อีก 2 รายเป็นสามีภรรยากัน คือ นายวีระศักดิ์ อายุ 33 ปี และ นางสาวธนัญญา อายุ 31 ปี ทั้งคู่เป็นชาว อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ พร้อมยึดรถยนต์กระบะอีซูซุ แค็บ ทะเบียน ผจ 6043 เพชรบูรณ์ จึงนำตัวทั้งหมดมาสอบสวนขยายผล

ผู้ต้องหาให้การว่า รับจ้างขนลำเลียงยาเสพติดให้กับกลุ่มนายทุน ครั้งนี้ตกลงค่าจ้างที่ 1 แสนบาท แต่ไม่เคยมาในพื้นที่ จ.นครพนม ต้องตั้ง GPS มาตลอดทาง โดยนายทุนจะโทรสั่งการว่าให้ไปรับยาเสพติดที่ไหน เมื่อเจอกับผู้ร่วมขบวนการในพื้นที่นครพนม เขาก็ได้ถอยท้ายรถมาจ่อที่ท้ายรถเก๋ง จากนั้นก็ยกกล่องกระดาษมาใส่ปิดฝาท้ายแล้วก็ให้ขับรถออกไปเลย ตอนแรกคิดว่าเป็นยาบ้า ไม่นึกว่าจะเป็นเฮโรอีน ส่วนรถกระบะสองผัวเมียจะขับนำหน้า ทิ้งระยะไม่ห่างมาก แต่ตอนที่ถูกจับรถกระบะได้ขับหลบหนี โดยไปจอดรถอยู่ในปั๊มน้ำมัน และเตรียมหาทางหนีทีไล่กัน ก็โดนตำรวจตามมาจับกุมเสียก่อน

โดยจากข้อมูลการจับกุม พบว่าเฮโรอีน มีราคาต้นทางจากแหล่งผลิตประมาณแท่งละ 4 แสนบาท (หนึ่งแท่งหรือหนึ่งตัวมีน้ำหนัก 370 กรัม) ตกประมาณกิโลกรัมละ 1 ล้านบาท สำหรับล็อตนี้นายทุนสั่งให้ไปส่งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ก็จะมีคนมารับช่วงต่อไป คาดปลายทางอยู่ที่เกาหลี เกาะฮ่องกง และ ออสเตรเลีย เมื่อถึงจุดหมายจะมีราคาเพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 4 ล้านบาททันที ล๊อตนี้ 75 กก.เท่ากับ 300 ล้านบาท เชื่อว่าทะลักจากกลุ่มว้าแดงชายแดนภาคเหนือ เลาะริมแม่น้ำโขงเข้าทางชายแดนอีสาน โดยใช้นครพนมเป็นช่องทางผ่าน อีกทั้งเป็นการจับกุมเฮโรอีนที่มีจำนวนมากสุดในรอบหลายปี