วันที่ 4 มิถุนายน 2567 คืบหน้าเกี่ยวกับคดีการเสียชีวิตของน้องโอ๊ค นักเรียนชั้น ม.2 วัย 14 ปี ชาวบ้านชุมชนเขตเทศบาลตำบลศรีสงคราม อ. ศรีสงคราม จ.นครพนม ถูกแก๊งวัยรุ่นสุดเถื่อนขับรถจักรยานยนต์ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด แซงประกบยิงศีรษะด้านขวา ร่วงตกจากรถจักรยานยนต์ที่มีน้องอเล็กซ์วัย 13 ปีเป็นคนขับ บาดเจ็บสาหัสก่อนจะไปเสียชีวิตที่ รพ.ศรีสงคราม เหตุเกิดหน้าโรงเรียนสหราษฎร์รังสฤษดิ์ ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับมัธยมชื่อดังประจำอำเภอ เวลาประมาณตีสองของวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา  โดยทางตำรวจได้คลิปจากภาพวงจรปิดมากกว่า 5 จุดเป็นหลักฐานสำคัญ ส่วนปมสาเหตุอาจมาจากการทะเลาะวิวาทในระหว่างกลุ่มวัยรุ่น อวดศักดาแสดงความเป็นเจ้าถิ่น หรือเกิดจากความคึกคะนอง

ล่าสุดทางญาติน้องโอ๊คเด็กชายผู้เคราะห์ร้าย ออกมาเปิดเผยว่าก่อนหน้านี้ประมาณสองสัปดาห์ กลุ่มผู้ตายได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับกลุ่มวัยรุ่นระหว่างหมู่บ้าน อยู่ในพื้นที่อำเภอเดียวกัน ที่มักสร้างปัญหาออกตระเวนหาเรื่องทะเลาะวิวาทเป็นประจำ มีชื่อว่าแก๊งโพธิ์ดำจึงมั่นใจว่ามีการก่อเหตุซ้ำ เพื่ออวดศักดาแสดงความเป็นเจ้าถิ่น นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติยังพบว่าแก๊งโพธิ์ดำ เคยก่อเหตุยิงปืนใส่คู่อริในงานบุญประเพณี ทำให้หญิงสาวเยาวชน เสียชีวิต โดยตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 3 ราย ล้วนเป็นสมาชิกในแก๊งโพธิ์ดำ แต่ยังมีทีมงานสานต่อความคึกคะนอง แสดงความเป็นเจ้าถิ่นออกมาก่อเหตุซ้ำอีก

อย่างไรก็ตามทางด้าน พ.ต.อ.ศรีนคร นัยวัฒน์ ผกก.สภ.ศรีสงคราม ระบุว่ากลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ มีปัญหาเรื่องคึกคะนองทะเลาะวิวาทกันบ่อย และก่อเหตุทำร้ายร่างกายกันบาดเจ็บและเสียชีวิต กระทั่งล่าสุดก่อเหตุยิงเด็กชายวัย 14 ปีเสียชีวิตอีก ส่วนเบาะแสของกลุ่มคนร้ายอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน และตรวจเช็คประวัติวัยรุ่นที่สร้างปัญหาสังคมทุกกลุ่ม เพื่อจะนำมารวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดีตามกฎหมาย และมีกลุ่มเป้าหมายที่คาดว่าเกี่ยวข้องชัดเจนแล้ว แต่ขั้นตอนการดำเนินคดีต้องรัดกุมเนื่องจากเป็นเยาวชน ส่วนปมสาเหตุมาจากความคึกคะนองเป็นหลัก

ด้าน นายเฉลิมพล เชื้อจารย์ชิน อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านชุมชนปากปูนหมู่ 1 เขตเทศบาลตำบลศรีสงคราม กล่าวในฐานะตนเป็นผู้นำชุมชนท้องถิ่น และยังเป็นญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นความคึกคะนองของลูกหลานเยาวชน ไม่โทษหน่วยงานไหน เพราะมีการวางมาตรการป้องกันมาตลอด แต่กลุ่มวัยรุ่นส่วนใหญ่ยังพยายามสร้างปัญหาทะเลาะทวิวาทเป็นประจำ ยอมรับว่าเป็นปัญหาภายในกลุ่มวัยรุ่น อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าตำรวจ มีฝีมือในการทำงานที่จะเร่งสืบสวนสอบสวน ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน ส่วนการแก้ปัญหาจะต้องร่วมกันหลายฝ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า ได้เข้าไปในเฟซบุ๊กของกลุ่มแก๊งโพธิ์ดำ ที่เคยภาพเกี่ยวกับอาวุธและกระสุนปืน ลักษณะข่มขืนฝ่ายตรงข้ามหรือคู่อริ หลังเกิดเหตุยิงน้องโอ๊คเสียชีวิต ได้ลบภาพนั้นทิ้งไปแล้ว ขณะเดียวกันเฟซบุ๊กสมาชิกในกลุ่มคนหนึ่ง มีรูปพรรณสัณฐานคล้ายมือปืนที่ยิงน้องโอ๊ค และจะเป็นความบังเอิญหรือไม่ เพราะมีหมวกกันน็อกเต็มใบสีขาวแบบเดียวกันอีกด้วย