วันที่ 11 มิ.ย.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปลาม้า ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์เรื่องมือการเกษตรของชาวนา บ้านสะแกย่างหมู  หมู่ 9 ตำบลมะขามล้ม จึงประสานฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ ไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุบริเวณคันคลองกลางทุ่งนาพบชาวบ้านจำนวนหนึ่งยืนจับกลุ่มมุงดูโครงรถไถนาแบบเดินตามของชาวบ้านที่ใช้วิดน้ำเข้านา ส่วนเครื่องรถไถถูกคนร้ายขโมยไป

สอบถามคุณป้ามวล มาลาพันธุ์  อายุ 67 ปีชาวบ้านหมู่ 13 ตำบลมะขามล้ม เจ้าของเครื่องสูบน้ำ ซึ่งกำลังอยู่ในอาการเสียใจ เล่าว่าตนทำนา 50 ไร่ ลงมือหว่านข้าวไปแล้วและข้าวใกล้จะตั้งท้อง จึงต้องวิดน้ำใส่นาเพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าว โดยตนได้ตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ตั้งแต่หว่านข้าวเสร็จ เพราะไม่อยากเอากลับบ้านเนื่องจากมีค่ายใช้จ่ายต้องจ้างคนขับมาตั้งและขับกลับครั้งละ 200 บาท ซึ่งบ้านก็อยู่ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร อีกอย่างน้ำในคลองส่งก็มาไม่สม่ำเสมอ ต้องคอยเฝ้าว่าน้ำมาเมื่อไหร่ก็ต้องรีบสูบ

เมื่อคืนตนมาดับเครื่องประมาณสี่ทุ่ม ตนตั้งเครื่องไว้ 2 เครื่องอยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร เป็นเครื่องยี่ห้อยันมาร์ 8 แรง สภาพเก่าแต่เพิ่งจะให้ช่างฟิตเครื่องมาได้ไม่นาน ค่าซ่อมเครื่องก็ยังจ่ายไม่หมดเลย และเมื่อคืนวันที่ 10 มิ.ย. 67 ก็มีคนร้ายมาขโมยน้ำมันในเครื่องไปจนเกลี้ยง ทั้ง 2 เครื่อง ครั้งแรกตนคิดจะย้ายเครื่องกลับบ้าน แต่ก็ไม่ได้ย้าย เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไร พื้นที่นี้ที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุลักทรัพย์ แต่สุดท้ายก็โดนจนได้ ฝากไปถึงโจรว่าขอให้เอาเครื่องมาคืนจะไม่เอาเรื่อง ไม่ดำเนินคดี แต่ถ้าไม่คืนตนก็ตั้งรางวัลนำจับให้คนที่แจ้งเบาะแสของคนร้ายจนนำไปสู่การจับกุม ซึ่งรางวัลก็คือหมูน้ำหนัก 100 กว่าโล 1 ตัว ผู้ได้รางวัลสามารถมาเลือกได้เลยว่าจะเอาตัวไหน เพราะหมูตนเลี้ยงเอาไว้เยอะมีทั้งที่บ้านมะขามล้ม และที่ฟาร์มกำธร ที่อำเภอสองพี่น้อง

ทางด้านนายอุทัย มาสมจิตร อายุ 59 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 ตำบลมะขามล้ม ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเล่าว่าเมื่อคืนช่วงประมาณตีหนึ่งครึ่งหมาที่บ้านของตนพากันเห่าเสียงดังแต่ตนคิดว่าหมาคงจะเห่าตามปกติจึงไม่ได้ลุกขึ้นมาดูเพราะที่ผ่านมาในพื้นที่ไม่เคยมีเหตุการณ์ลักทรัพย์กระทั่งเช้าลูกชายตื่นไปทำงานเจอผู้เสียหายและรู้ว่าเครื่องสูบน้ำถูกขโมยจึงโทรไปบอกตนและออกมาดูจากนั้นได้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน ให้ทราบและแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ส่วนเครื่องยันมาร์ที่คนร้ายขโมยไปถึงแม้จะสภาพเก่าแต่ภายในได้รับการซ่อมมาอย่างดี ถ้านำไปขายน่าได้ราคาเครื่องละไม่ต่ำกว่า 7,000 – 8,000 บาท

นายบำรุง เกิดสุข อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 14 ตำบลมะขามล้ม ซึ่งอยู่พื้นที่ติดกันกล่าว่าที่ผ่านมานับ 10 ปีในพื้นที่ไม่เคยมีเหตุการณ์ลักทรัพย์ กระทั่งมาเมื่อคืนวันที่ 9 มิ.ย.ได้มีเหตุการณ์คนร้ายมาขโมยน้ำมันเครื่องสูบน้ำของชาวบ้านหมู่ 9 และคืนวันที่ 10 ย่างเข้าวันที่ 11 คนร้ายได้ก่อเหตุขโมยเครื่องสูบน้ำของชาวบ้านไปอีก 2 เครื่อง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายได้เตรียมอุปกรณ์เครื่องมือถอดน็อต มาก่อเหตุไปได้ 2 เครื่อง และกำลังจะถอดน็อตเครื่องที่ 3 แต่ไม่สามารถเอาไปได้คาดว่าขณะกำลังก่อเหตุน่าจะมีคนผ่านมา คนร้ายจึงรีบหนีไปก่อน

ตนก็อยากฝากเตือนให้พี่น้องชาวบ้านและเกษตรกร เพิ่มความระมัดระวัง เพราะพื้นที่นี้เงียบสงบมานานนับ 10 ปีไม่มีเหตุการณ์ลักขโมย แต่ช่วงนี้อาจจะเป็นเพราะว่าสภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ประกอบกับยาเสพติดที่มีราคาถูก ทำให้ผู้กระทำความผิดหลงผิดมาก่อเหตุก่อเหตุลักทรัพย์ซึ่งเป็นการกระทำที่ง่าย มาในยามวิกาลที่ประชาชนส่วนใหญ่จะพักผ่อนกันก็อยากฝากให้พ่อแม่พี่น้อง ทั้งหมู่ 13 และพื้นที่ใกล้เคียงช่วยระมัดระวังช่วยสังเกตพื้นที่ไหนติดกล้องวงจรปิดได้ก็ให้ติด ช่วยกันหาข่าวไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติดการลักขโมยน้อยในพื้นที่

พ.ต.อ.เอกมงคล วิลัยเกษม ผู้กำกับ สภ.บางปลาม้า กล่าวว่าได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวและเบาะแสของคนร้าย พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆที่คาดว่าคนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี เพื่อเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุดเพราะพฤติกรรมของคนร้ายสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและเป็นการซ้ำเติมความทุกข์ยากให้กับเกษตรกรด้วย