วันพฤหัสบดี ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 12:02 น.

อาชญากรรม

โจรดวงซวยขับกระบะไปขโมยเครื่องสูบน้ำชาวนาติดหล่มทิ้งรถหนี

วันเสาร์ ที่ 06 กรกฎาคม พ.ศ. 2567, 18.19 น.

วันที่ 6 ก.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุพบรถกระบะต้องสงสัยจะเป็นรถคนร้ายมาก่อเหตุขโมยเครื่องสูบน้ำชาวบ้านแล้วติดหล่มกลางทุ่งนา บ้านดอนแจง หมู่ 8 ตำบลศาลาขาว อำเภอมืองสุพรรณบุรี หลังรับแจ้งได้ไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจตำบลศาลาขาว ที่เกิดเหตุอยู่กลางทุ่งนาท่ามกลางข้าวที่กำลังเขียวขจี พบรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สตาร์ดรา สีบรอนซ์ ทะเบียน บน 1271 สุพรรณบุรี เอียงอยู่ริมทางเข้านา สภาพที่ประตูรถ ฝากระโปรง กระบะท้ายมีรอมมือเปลื้อนโคลนรอบคัน ที่กระบะท้ายมีท่อนแป๊บยาวประมาณ 2 เมตร ชะแลง 1 อันในรถมีอุปกรณ์เครื่องมือช่าง วางอยู่อยู่ที่หลังเบาะด้านซ้ายที่พื้นท้ายรถล้อลื่นเนื่องจากดินเปียก

ห่างกันประมาณ  150 เมตร มีเครื่องสูบน้ำตั้งอยู่ที่ทางเดินตั้งแต่ รถกระบะไปถึงเครื่องสูบน้ำมีรอยเท้าของคนร้ายเดินไปมาเต็มไปหมด ตรวจสอบที่เครื่องสูบน้ำซึ่งเป็นเครื่องรถไถนาแบบเดินตาม จอดอยู่ที่พื้นหน้าเครื่องมีปะแจไขน๊อต วางอยู่ 2 ตัวและปะแจคอม้า 1 อัน นอกจากนี้ที่หางรถไถและตัวเครื่องมีคราบดินโคลนติดอยู่ และน๊อตยึดเครื่องเครื่องโครงรถไถมีรอยถูกถอด และใส่ใหม่ซึ่งไม่เหมือนเดิม

สอบถามนายมานะ ชาวสวนแตง  อายุ 60 ปีเจ้าของเล่าตนทำนา 50 ไร่ได้ตั้งเครื่องสูบไว้ที่นาแห่งนี้ตั้งเริ่มหว่านข้าวประมาณ 60 วันยังไม่ได้เอาเครื่องกลับบ้านคิดว่าเกี่ยวข้าวเสร็จแล้วค่อยเอากลับพร้อมกันทีเดียว สาเหตุที่ไม่เอาเครื่องกลับเพราะละแวกนี้ไม่เคยมีเหตุการณ์ลักขโมยเครื่องสูบน้ำ ทำให้ชาวนาส่วนมาก ไม่มีใครเอาเครื่องกลับ

กระทั่งสายวันนี้ตนได้มาดูนาข้าวตามปกติกเมื่อมาถึงนาเห็นรถกระบะจอดอยู่กลางนาของตัวเอง ก็รู้สึกเอะใจว่าเจ้าของรถคันนี้คงจะมาทำอะไรกับเครื่องสูบน้ำของตนแน่นอนเพราะทางเข้านานั้นลำบากเพราะเป็นถนนดินเหนียวพอฝนตกรถก็ติด ขนาดคนเดินดินยังติดเท้าเดินลำบาก จึงเดินไปดูก็พบว่ารถติดหล่มล้อด้านซ้ายทั้งสองล้อตกลงไปริมนา มีร่องรอยพยายามเอาท่อนไม้แม่แรงมายกเพื่อเอารถขึ้นแต่ไม่สามารถเอาขึ้นได้ จึงโทรบอกลูกชายให้แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
 
เมื่อตรวจสอบทางเดินที่เข้าไปหาเครื่องสูบน้ำพบมีรอยเท้าเดินเป็นเต็มไปหมด และนิอตที่ยึดเครื่องมีรอยถอดและใส่ใหม่แต่ไม่เหมือนเดิมนอกจากนี้ยังพบปะแจไขน๊อต วางอยู่ 3 ตัว ที่หางรถไถและตัวเครื่องมีรอยเปื้อนดินโคลนเต็มไปหมด ที่พื้นทางเดินยังมีรอยเครื่องตก และมีร้อยเท้าเดินเป็นทางออกจากจุดตั้งเครื่องสูบน้ำออกไปทางหลังปั๊มน้ำมันซึ่งสามารถออกไปสู่ถนนสายมาลัยแมนอู่ทองได้

จากการสอบถามชาวบ้านใกล้จุดเกิดเหตุทราบว่าเมื่อคืนช่วงประมาณสี่ทุ่มมีฝนตกพรำๆ เห็นมีไฟรถยนต์ขับเข้ามายังจุดที่ตั้งเครื่องสูบน้ำแต่ชาวบ้านไม่ได้คิดอะไรกระทั่งเช้าตนมาเจอ จึงรู้ว่ารถคันนี้ตั้งใจมาก่อเหตุลักเครื่องสูบน้ำของตนแน่นอน ซึ่งเครื่องตัวนี้ยี่ห้อยันมาร์ 15 แรง ซื้อมาประมาณ 40 ปี ส่วนสาเหตุที่คนร้ายถอดน๊อตยกเครื่องออกไปแล้วแต่กลับเอามามาใส่คืนคิดว่าคนร้าย น่าจะต้องการเอารถไถนาไปลากรถกระบะขึ้นจากหล่ม แต่ไม่ทันเพราะอาจจะเช้าก่อนจึงตัดสินใจทิ้งกระบะแล้วเดินหนีไปทางหลังปั๊มน้ำมัน ครั้งนี้นับว่าตนโชคดี ที่คนร้ายก่อเหตุไม่สำเร็จและคงจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าที่เจ้าทางช่วยไม่ให้คนร้ายก่อเหตุได้  จึงอยากฝากถึงพี่น้องชาวนาว่าถ้าสูบน้ำเสร็จขอให้เก็บเครื่องกลับบ้านเพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี คนร้ายออกอาละวาดลักเครื่องสูบน้ำของชาวนาบ่อยมาก หลายรายถูกจับได้และมีอีกหลายรายยังจับไม่ได้ และอยากฝากถึงคนร้ายที่มาก่อเหคุว่าขอให้มารับรถกระบะของตัวเองกลับด้วย ตนและชาวบ้านกับตำรวจรอช่วยยกรถขึ้นจากหล่มให้ ซึ่งคนร้ายที่มาก่อเหตุครั้งนี้คาดว่ามีไม่น้อยกว่า 2 คนถ้าก่อเหตุสำเร็จนำไปขายน่าจะได้ประมาณ 4,000 – 5,000 บาทแต่ถ้าตนไปซื้อเครื่องใหม่ คงอีกหลายหมื่น

จากการตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองรถคันดังกล่าวพบว่ามีนายโสภณวิชญ์  อยู่เปี่ยม บ้านอยู่ตำบลยุ้งทะลาย อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามตัวมาสอบสวนขายผลจับกุมผู้ก่อเหตุครั้งนี้ต่อไปเพราะการก่อเหตุของคนร้ายถือเป็นการซ้ำเติมพี่น้องเกษตรกรชาวนาที่กำลังเดือดร้อนลำบาก

หน้าแรก » อาชญากรรม