สืบเนื่อง ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) มีมติในความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในรูปแบบปฏิบัติการร่วมกัน ดำเนินการสกัดกั้นยาเสพติดให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และร่วมมือกันทำลายเครือข่ายนักค้ายาเสพติด รวมทั้งการยึดทรัพย์สินเพื่อตัดวงจรการค้ายา โดยทางไทยได้มอบเงินรางวัลนำจับกว่า 1 ล้านบาทแก่ทางการลาว ในการชี้เบาะแสจับกุม 2 ผู้ต้องหาสัญชาติไทยรายสำคัญได้ และนำไปสู่การยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน  ทำให้มีการแลกเปลี่ยนการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (ผบก.ภ.จว.นครพนม) ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ว่า ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ มีการเคลื่อนไหวบริเวณริมแม่น้ำโขง จึงร่วมกับ พ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์  อรัณยกานนท์  รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม  พ.ต.อ.ธนารัตน์  มีทองหลาง  ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครพนม พ.ต.ท.ชัชวาลย์  รัชตะประกร  รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครพนม ประชุมวางแผนในการจับกุม ตรวจยึด สกัดกั้น ขบวนการค้ายานรกข้ามชาติ พร้อมสั่งการให้ พ.ต.ท.จิรเดช อัตตพงษ์ รอง ผกก.ป.สภ.หลักศิลา ปฏิบัติราชการ กก.สืบสวน ภ.จว.นครพนม และเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตำรวจน้ำ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.นครพนม) และ ตำรวจทางหลวง  บูรณาการซุ่มเฝ้าตามเส้นทางต่างๆที่สามารถเข้าสู่พื้นที่จังหวัดตอนใน

กระทั่งเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 พบรถยนต์เก๋งต้องสงสัยยี่ห้อมาสด้า. สีดำ วิ่งฝ่าสายฝนด้วยความเร็วบนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 212 (นครพนม-บ้านแพง) ช่วง อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม  ชุดปฏิบัติการได้ส่งสัญญาณเพื่อติดตามและสกัดกั้น และพบว่ารถเก๋งเริ่มไหวตัว ได้เปลี่ยนเส้นทางเลี้ยวเข้าถนนหลวงแผ่นดินหมายเลข 2028 สายท่าอุเทน-โพนสวรรค์-กุสุมาลย์ บริเวณสามแยก รพ.ท่าอุเทน ขับมุ่งหน้าไปยัง อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ก่อนจะใช้เส้นทางรองที่สัญจรระหว่างหมู่บ้าน ชุดปฏิบัติการจึงแยกกันสกัดตามจุด โดยมีรถเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามอยู่ห่างๆ ปรากฏว่าแก๊งค้ายาเสพติดคาดว่าหนีไม่รอดแน่ จึงจอดรถทิ้งไว้ที่ริมถนนภายในหมู่บ้านหนองท่ม หมู่ 8 ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ก่อนจะวิ่งหนีหายไปกับความมืด

เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจึงเข้าปิดล้อม และตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว พบว่าประตูรถไม่ได้ล็อก เปิดเข้าไปมีกุญแจเสียบค้างไว้ เบาะด้านหลังมีกระสอบปุ๋ยสีฟ้า จำนวน 3 ใบ จึงนำไปตรวจนับที่ กก.สืบสวน ภ.จว.นครพนม ภายในกระสอบทั้ง 3 ใบมีห่อกระดาษไขสีเหลือง มีอักษร Y1 ประทับอยู่บนห่อ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) นับได้ 383,800 เม็ด จึงส่งมอบพนักงานสอบสวน สภ.โพนสวรรค์ นำไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ในขณะที่ชุดปฏิบัติการได้ขยายผลเพื่อจับกุมผู้เกี่ยวข้องต่อไป

ส่วนรถยนต์เก๋งมาสด้า ที่คนร้ายใช้ขนยาบ้าของกลาง ตรวจสอบแล้วสวมทะเบียนปลอมหวังตบตาเจ้าหน้าที่ คาดเป็นรถหลุดจำนำในบ่อนการพนัน ก่อนจะขายต่อให้บุคคลอื่นนำไปใช้ในการลำเลียงสิ่งผิดกฎหมาย โดยรถของกลางยังผ่อนไฟแนนซ์อยู่ จึงจะเรียกผู้มีชื่อเช่าซื้อมาสอบปากคำ ส่วนคนร้ายที่หลบหนี เบื้องต้นมีผู้ชี้เบาะแสว่าพัวพันยาเสพติด และเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดียาเสพติดที่มีค่าหัวในการนำจับ