เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 9 สิงหาคม 2567 ภายใต้การอำนวยการของ นายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี นำโดย ว่าที่ร้อยตรี ธนายุทธ พินิจมนตรี ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นำสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองกาญจนบุรี ที่ 2 สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหารชุดการข่าว กองกำลังสุรสีห์ กองพลทหารราบที่ 9 เจ้าหน้าที่ทหารศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพบก

นำกำลังเข้าปิดล้อมรถกระบะอีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีขาว ทะเบียน บษ 4375 กาญจนบุรี ที่จอดอยู่ในลานของคาเฟ่แห่งหนึ่ง หมู่ 4 ต.เกาะสำโรง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พบว่ามีนายสมยศ หรือบาส อายุ 26 ปี ต.กลอนโด อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นคนขับมาคนเดียว จึงได้ให้ลงมาจากรถและตรวจค้นพบห่อยาไอซ์ขนาดใหญ่ ใส่ในถุงพลาสติกสำหรับบรรจุน้ำแข็ง วางอยู่ที่พื้นหลังเบาะคนขับ ยังพบลูกกระสุนปืนขนาด 9 มม.อีก 7 นัด และโทรศัพย์มือถือหนึ่งเครื่อง จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวนขยายผลต่อที่อาคาร กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองกาญจนบุรี ที่ 2

เบื้องต้น นายสมยศ ให้การรับสภาพว่า ได้ค่าจ้างในการขน หรือการเป็นนักบินครั้งละ 3,500 บาท โดยตนนั้นรับมาจากด่านมะขามเตี้ย เตรียมที่จะวิ่งไปส่งในพื้นที่ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองกาญจนบุรี อ้างว่าทำเป็นครั้งแรก นายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ได้มาร่วมการสอบสวน ตรวจสอบของกลาง และให้ข้อมูลว่า ภายใต้การอำนวยการของผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้กำชับมา ซึ่งการกวาดล้างยาเสพติด มูลค่าจับการค้ายาไอซ์น้ำหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม มีมูลค่ากว่า 500,000 บาท โดยมีการบรรจุไว้ในถุงพอสำหรับที่เป็นถุงซึ่งเป็นสัญลักษณ์โดยเฉพาะมาจากเพื่อนบ้าน

ในระหว่างที่สอบสวนขยายสวนอยู่นั้น ภรรยาของ นายสมยศ ได้เดินทางมาหาและขอเข้าพบ ซึ่งเป็นเมียที่อยู่กินกับนายสมยศมา หลายปีมีลูกด้วยกัน 2 คนเข้าสวมกอดกันแล้วร้องไห้กัน เพื่อเป็นการอำลากันครั้งสุดท้าย ทางด้านเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหา 1. จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย 2. เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) 3.เป็นผู้ขับขี่ยานยนต์ และที่สาธารณะ ในขณะที่มีสารเสพติด 4. มีเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต