เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 31 ส.ค.67 ร.ต.อ.พันธรักษ์ พงศ์พฤกษธาตุ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตภายในหอพักแห่งหนึ่ง ริมถนนสายตรัง-ปะเหลียน พื้นที่ หมู่ 10 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง (หน้าวิทยาลัยเทคนิคตรัง) ภายหลังรับแจ้งจึงรายงาน พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.เมืองตรัง ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.เมธี ภิญโญประการ รอง ผกก.สส. กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ตรัง สืบสวน สภ.เมืองตรัง ตำรวจสืบสวนกลาง (กองปราบปราม) กำลังตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง และอาสากู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง

ที่เกิดเหตุเป็นหอพักจำนวน 3 ชั้น ขึ้นไปบนห้องพักห้องหนึ่งบนชั้น 3 บริเวณพื้นทางเดินด้านหน้าประตูห้องของผู้เสียชีวิต พบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายนนทกร (สงวนนามสกุล) หรือน้องกร อายุ 20 ปี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดที่ไหลเจิ่งนองจำนวนมาก บนฝาผนังหน้าห้องพบมีคราบเลือดติดเป็นทางยาวอีกหลายจุด สภาพร่างกายมีรอยสักลายเกือบทั่วทั้งร่าง สวมเสื้อโปโลคอปกสีเทาฟ้า นุ่งกางเกงบ๊อกเซอร์สีขาวดำ บริเวณเอวเหน็บซองปืนหนังพกใน 1 ซอง 

ชันสูตรพลิกศพพบถูกยิงด้วยกระสุนปืนยังไม่ทราบชนิดและขนาดเข้าที่ ใบหน้าบริเวณข้างจมูก 1 แผล เหนือชายโครงขวา  1 แผล ข้างลำคอด้านซ้าย 1 แผล ข้อมือขวาทะลุ 1 แผล และเหนือข้อมือแขนซ้ายมีบาดแผลถูกหัวกระสุนปืนแฉลบอีก 1 แผล อีกทั้งบนพื้นบริเวณเหนือศีรษะผู้เสียชีวิตยังพบอาวุธปืนแบลงค์กัน ชนิดแม็กกาซีนดัดแปลงสภาพสำหรับใช้กับกระสุนจริง ซึ่งคาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิตตกอยู่จำนวน 1 กระบอก โดยภายในแม็กกาซีน และในลำกล้องไม่พบกระสุนปืนถูกบรรจุอยู่

บริเวณหน้าห้องพบรองเท้าแตะสีกรม ตั้งอยู่ 1 คู่คาดว่าเป็นของผู้ก่อเหตุ เข้าไปตรวจสอบภายในห้องพักของผู้เสียชีวิต พบกองเลือดหยดเป็นทางยาวจากพื้นหน้าห้องไปจรดบนฟูกที่นอน บนพื้นข้างฟูกที่นอนพบปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ตกอยู่ประมาณ 3 ปลอก บนโต๊ะตกอยู่อีกจำนวน 3 ปลอก และกระสุนปืนขนาด .38 ยังไม่ได้ใช้งานอีก 5 นัด และซองปืนอีก 1 ซอง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บวัตถุพยานทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนายนฤเทพ (สงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี คาดว่าอาจจะเป็นเพื่อนรุ่นน้องของผู้เสียชีวิต

แนวทางการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้น ทราบว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายได้เข้ามาเช่าหอพักดังกล่าวเพื่อศึกษาที่วิทยาลัยเทคนิคฯแห่งหนึ่ง อยู่เป็นระยะเวลา 3 ปี จนเรียนจบระดับชั้นปวช.3 ก่อนที่จะย้ายออกจากหอพักดังกล่าวไปเป็นระยะเวลาหนึ่ง จนกระทั่งเมื่อไม่ถึง 1 เดือนที่ผ่านมา ผู้เป็นแม่ของผู้ตายได้กลับมาเช่าหอพักให้ผู้ตายอาศัยอยู่ เพื่อกลับมาศึกษาต่อในระดับชั้น ปวส.1 โดยเจ้าของหอพักและผู้ร่วมห้องบางรายรู้จักหน้าค่าตากับผู้ตาย โดยมีบรรดาเพื่อนฝูงรุ่นพี่ รุ่นน้อง แวะเวียนเข้าออกห้องอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งมาเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในหอพักพบว่าหลังจากสิ้นเสียงปืน เห็นผู้ก่อเหตุได้วิ่งออกมาจากห้องด้วยอาการลุกลี้ลุกลน โดยในมือกำอาวุธปืนที่น่าจะใช้ก่อเหตุอยู่ 1 กระบอก ก่อนจะขับรถ จยย.ของผู้ตายที่จอดอยู่ใต้หอพักหลบหนีไป โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและเส้นทางการหลหนีทั้งหมด เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนมูลเหตุยังไม่สามารถสรุปได้ คาดเพียงเบื้องต้นอาจจะมาจากการทะเลาะวิวาท