ผู้สื่อข่าว รายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า จากกรณี เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 30 รอยต่อ 31 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.บุญฤทธิ์ หนูเขียว รอง สว. (สอบสวน) สภ.ป่าพะยอม พ.ต.อ.ณธรรศกร เกตุขาว ผกก.สภ.ป่าพะยอม นายตำรวจที่เกี่ยวข้อง จนท.หน่วยกู้ภัยป่าพะยอม จนท.พิสูจน์หลักฐานจังหวัดพัทลุง แพทย์เวร รพ.ป่าพะยอม ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุยิงกันตาย 1 ศพ โดยเหตุเกิดในบริเวณงานศพวัดทุ่งชุมพล ท้องที่หมู่ที่ 3 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ในที่เกิดเหตุบริเวณศาลาจัดเลี้ยงของวัดดังกล่าวซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพ ตำรวจพบศพนายเฉลิมศักดิ์ หลินมา อายุ 54 ปี อยู่บ้านต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นอนเสียชีวิตจมกองเลือดบนพื้นศาลาของวัดดังกล่าวที่ถูกจัดให้เป็นโรงเลี้ยงของงานศพภายในวัดดังกล่าว

 จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ในบริเวณวัดดังกล่าสมีการตั้งศพบำเพ็ญกุศลตามศาสนา จำนวน 2 ศพ ก่อนเกิดเหตุผู้ตายซึ่งในขณะนี้มาพักอาศัยที่บ้านเลขที่ 26 หมู่ที่ 2 ต.ในเตา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ได้ขี่ จยย.เข้ามาร่วมงานศพของญาติอีกงานหนึ่งที่ตั้งศพอยู่ใกล้กัน โดยที่ผู้ตายนกำลังนั่งรับประทานอาหารและดื่มสุรานั้นผู้ตายได้ส่งเสียงดังและเอะอะโวยวายในงานศพที่เป็นญาติของตน จนสร้าวความไม่พอใจให้กับบรรดาญาติของงานศพอีกงานหนึ่ง ต่อมาได้มีคนร้าย 1 คน ทราบชื่อภายหลัง นายกฤษดา กำลังเกื้อ อายุราว 24 ปี ซึ่งเป็นญาติของงานศพอีกงานก็ได้เดินเท้ามายังจุดเกิดเหตุ และใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงเจาะท้ายทอยนายเฉลิมศักดิ์ จนล้มลงและเสียชีวิตคาที่ท่ามกลางความตื่นตกใจของบรรดาญาติๆในงานศพทั้ง 2 งาน จากนั้นคนร้ายก็ได้เดินเท้าหลบหนีไป ในเบื้องต้นทาง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัว โดยประสานไปยังญาติให้เข้ามามอบตัว แต่จนถึงขณะนี้ยังไร้วี่แวว

 ล่าสุด ที่ สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ญาติได้นำตัว นายกฤษดา อายุ 24 ปี เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง แล้ว โดยพนักงานสอบสวนได้นำตัวสอบปากคำยังห้องสอบสวนทันที ผู้ก่อเหตุ ไม่ยอมเปิดเผยหรือให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด โดยทางพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
 

โดยนายกฤษดา (ผู้ก่อเหตุ) ซึ่งมีผู้เป็นแม่ในการพาเข้ามอบตัว หลังจากที่นำตัวมาถึง สภ.ป่าพะยอม พนักงานสอบสวนก็ได้นำตัวนายกฤษฎาเจ้าไปพิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนที่จะให้เซ็นรับทราบข้อหาตามขั้นตอน
 

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้คุมตัวนายกฤษฎาเข้าไปสอบปากคำเพิ่มเติมภายในห้องพนักงานสอบสวน โดยที่มีผู้เป็นแม่ตามประกบอยู่ไม่ห่าง ซึ่งผู้เป็นแม่ก็ได้นำผ้าขนหนูสีเขียวคลุมปิดบังใบหน้าลูกชายเอาไว้จนมิดชิด ระหว่างที่กำลังจะเดินไปห้องพนักงานสอบสวน นักข่าวก็ได้พยายามถามถึงปมในการก่อเหตุยิงครั้งนี้ ปรากฏว่านายกฤษฎาได้ใช้มือข้างขวากระชากกล้องของผู้สื่อข่าวหลายสำนักที่รอติดตามทำข่าว รวมถึงผู้เป็นแม่ก็ได้พยายามใช้มือปัดกล้องออก นักข่าวก็พยายามบอกให้ทั้งสองคนใจเย็น แต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ แล้วก็พากันเข้าเดินเข้าไปยังห้องพนักงานสอบสวนอย่างรีบรน ก่อนทางพนักงานสอบสวนให้ประกันตัวในเวลาต่อมาและปล่อยตัวกลับบ้านในช่วงเวลา 16.00 น.ของวันเดียวกัน
 

ขณะเดียวกัน นายอดิศักดิ์ ที่ถูกยิงเสียชีวิตนั้น ญาติได้นำศพมาประกอบพิธีทางศาสนา และเผาศพในทันที่ ที่วัดโพรงงู อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง