เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 กันยายน 2567 พ.ต.ท.ไพศาล ใจเกษม สารวัตรเวร สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ รับแจ้งเหตุพบศพคนเสียชีวิต 2 ราย อยู่ท้ายรถกระบะจอดทิ้งอยู่ที่ทุ่งนาบริเวณบ้านโนนสวรรค์ หมู่ที่ 8 ต.หนองอิเฒ่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เบื้องต้นคาดว่าเป็นฆาตกรรม หลังรับแจ้งจึงรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.สมยศ ศรีพระคุณ ผกก.สภ.ยางตลาด ชุดสืบสวนสภ.ยางตลาด ชุดสืบสวนภ.จว.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยสามัคคีกตัญญู จ.กาฬสินธุ์ หน่วยร่วมใจกาฬสินธุ์  เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน และแพทย์เวร รพ.ยางตลาด

โดยที่เกิดเหตุพบศพอยู่บริเวณทุ่งนาติดกับป่า เขตบ้านโนนสวรรค์ หมู่ที่ 8 ต.หนองอิเฒ่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พบรถกระบะมีโครงเหล็ก ยี่ห้อโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ ทะเบียน บล 7573 กาฬสินธุ์ ด้ายท้ายรถกระบะพบศพชาย 2 คน นอนกองรวมกันอยู่ ทราบชื่อต่อมาคือนายเหรียญ ภูแถวเชือก อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 บ้านหนองกุง หมู่ที่ 1 ต.เขาพระนอน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ สภาพศพสวมเสื้อลายแขนสั้นนุ่งกางเกงยีนขายาว ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่บริเวณชายโครงด้านซ้าย  1 นัด สภาพนอนคว่ำหน้าทัพศพของนายปิยพงษ์ ภูแถวเชือก อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นลูกชาย และอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน

โดยนายปิยพงษ์ เสียชีวิตสภาพศพสวมเสื้อแขนยาว นุ่งกางงเกงขาสั้น ตามร่างกายพบศีรษะถูกของแข็งตีอย่างแรงจนบวมเลือดออกตา บริเวณลำคอพบรอยเชือกรัด และมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ใตรักแร้ซ้าย 1 นัด ตรวจสอบทรัพย์สินพบเงินสดอยู่ในกระเป๋านายปิยพงษ์ จำนวน 1,1714 บาท และกระเป๋านายเหรียญ 1,913 บาท ส่วนเงินสดประมาณ  1 แสนบาท ที่ได้จากการขายวัว และสร้อยคอทองคำ 1 บาทหายไป และบนท้ายกระบะยังพบวัวยืนอยู่ 1 ตัว

นอกจากนี้จากการตรวจสอบบริเวณป่าละเมาะพื้นที่บ้านหนองโก ต.โคกพระ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ซึ่งห่างจากจุดพบศพประมาณ 500 เมตร พบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ 2 ปลอก เชือกคล้อง กระดุมเสื้อ และคราบเลือดอยู่ตามพื้นดินหลายจุด คาดว่าน่าจะเป็นจุดที่คนร้ายฆ่าทั้ง 2 คน แล้วนำศพข้ามฝั่งไปยัดไว้ท้ายรถกระบะฝั่ง จ.กาฬสินธุ์ เพราะจากการสอบถามชาวบ้านเห็นทั้งสองคนนอนอยู่บริเวณดังกล่าวเมื่อช่วงประมาณ 15.00 น.วันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา แต่คิดว่าทั้งสองนอนพักผ่อน จึงไม่ได้สนใจ จนมาพบเป็นศพ

สอบถามนางสาวลลิตตา ภูแถวเชือก ภรรยานายปิยพงษ์ ทราบว่า  ผู้ตายเป็นสามี และพ่อสามี ทั้งสองมีอาชีพเป็นนายฮ้อยตระเวนรับซื้อวัวในตลาดนัดโคกระบือหลายจังหวัดในภาคอีสาน ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 18 ก.ย. 67 ได้ออกจากบ้านที่ ต.เขาพระนอน เพื่อไปซื้อวัวที่และขายวัวตลาดนัดบ้านหัน จ.มหาสารคามตามปกติ ต่อมาช่วงเช้าได้โทรศัพท์พูดคุยกับสามี เพื่อถามสารทุกข์สุกดิบกันตามปกติ กระทั่งเวลา 09.00 น. ของวันเดียวกันได้โทรไปหาสามีอีกรอบ แต่ไม่รับโทรศัพท์ จึงพยายามโทรหาหลายครั้งแต่ก็ปิดเครื่อง จึงเอะใจ ญาติๆได้ออกตามหา กระทั่งช่วงเช้าวันนี้ มีคนโทรมาบอกว่าพบศพทั้ง 2 ที่บริเวณดังกล่าว

นางสาวลลิตตา กล่าวอีกว่า หลังทราบข่าวตกใจมาก ทำใจไม่ได้ เพราะต้องมาสูญเสียทั้งสองคนไปพร้อมกัน ซึ่งทั้ง 2 เป็นคนนิสัยดี ทำมาหากินสุจริต เป็นเสาหลักของครอบครัว ไม่คิดจะถูกฆ่าตายพร้อมกันทั้ง 2 คนพ่อลูกขนาดแบบนี้ อยากให้ตำรวจเร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีมาดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรมชิงทรัพย์ เพราะสร้อยทองของพ่อสามี 1 บาท เงินสด 1 แสนหายไป และที่ผ่านมาทั้งสองไม่เคยทะเลาะกับใคร

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบ เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบถามพยานแวดล้อม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า คนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 3 คน ได้ทำการล่อลวง 2 พ่อลูกมาซื้อขายวัวก่อนที่จะลงมือฆ่า และเอาทรัพย์สินไป และกลุ่มคนร้ายน่าจะรู้จักกับทั้ง 2 คนด้วย เนื่องจากรู้ว่าทั้ง 2 คน ได้เงินจากการขายวัว 1 แสนบาท ทั้งนี้จุดเกิดเหตุ และจุดพบศพเป็นพื้นที่คาบเกี่ยว 2 จังหวัด (จังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดมหาสารคาม) ตำรวจ สภ.ยางตลาด และ สภ.กันทรวิชัย จะเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป