วันอังคาร ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568 11:09 น.

อาชญากรรม

รวบถึงบ้าน! หนุ่มวัย 22 ปี ติดเกมส์ออนไลน์ บุกมีดจ่อคอเจ้าของร้านทวงคืนมือถือหลังขายไป 3 วัน

วันพุธ ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 09.26 น.

วันที่ 15 ตุลาคม 2567 พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม นำคลิปหลักฐานการจับกุม แถลงต่อสื่อมวลชน ปิดคดีวัยรุ่นคึกคะนอง ใช้อาวุธมีดยาว จี้เจ้าของร้านจำหน่ายและซ่อมโทรศัพท์มือถือ ภายในตลาดอินโดจีน เขตเทศบาลเมืองนครพนม เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นเวลา 17.00 น. วันที่ 14 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยผู้เสียหายคือนายตั๊ม อายุ 40 ปี เจ้าของร้านร่ำรวยโฟน ได้แจ้งเบาะแสว่ามีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ ขณะนั่งซ่อมมือถืออยู่ภายในร้าน แต่ได้ตั้งสติและเกลี้ยกล่อม เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีน้องชาย และภรรยาของผู้เสียหาย รวมถึงลูกค้าอีกคนหนึ่งที่นั่งอยู่ภายในร้าน ก่อนจะยื่นเงินสดให้ผู้ก่อเหตุไป จำนวน 600 บาท โดยคนร้ายหลังได้เงินก็วิ่งไปขับรถจักรยานยนต์ ที่จอดอยู่ด้านหลังตลาดอินโดจีนหลบหนีไป

ต่อมานายตั๊มผู้เสียหาย มีหลักฐานสำคัญจากสำเนาบัตรประชาชน เนื่องจากผู้ก่อเหตุเคยนำมือถือมาขายให้เมื่อ 3 วันก่อน และทำทีมาถามหามือถือเครื่องเดิม จากนั้นก็ใช้อาวุธมีดยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ด้วยการล็อกคอขู่ทำร้าย แต่ภายในร้านไม่มีกล้องวงจรปิด โดยยืนยันจำหน้าคนร้ายได้ เพราะไม่มีการปิดบังใบหน้า เพราะเป็นลูกค้าที่เคยนำมือถือมาให้ซ่อมประจำ ทราบชื่อภายหลัง คือ นายประสิทธิ์ชัย  อายุ 22 ปี  ชาวบ้านนางิ้ว ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก จ.นครพนม โดยทางตำรวจชุดสืบสวน ได้ติดตามจับกุมตัวได้ถึงบ้านพัก พร้อมถ่ายคลิปวีดีโอบันทึกเป็นหลักฐานขณะเข้าทำการจับกุม โดยผู้ก่อเหตุไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะจำนนด้วยหลักฐาน

เนื่องจากผู้เสียหายมีสำเนาบัตรประชาชนของนายประสิทธิ์ชัยเป็นหลักฐาน เนื่องจากเมื่อ 3 วันก่อนเคยนำโทรศัพท์มือถือไปขายให้ที่ร้าน พร้อมรับสารภาพว่าติดเกมส์ออนไลน์อย่างหนัก ที่หน้ามืดก่อเหตุชิงทรัพย์ในครั้งนี้ เพราะต้องการเงินไปเล่นเกมส์ออนไลน์ อีกทั้งอยากได้โทรศัพท์มือถือที่เคยมาขายคืน เพราะในเครื่องมีเกมส์ที่ตนโหลดมาไว้อยู่ จึงตัดสินใจด้วยความคึกคะนอง ก่อเหตุด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ใช้จังหวะตอนที่นายตั๊มผู้เสียหาย กำลังก้มหน้าซ่อมโทรศัพท์มือถือ ยืนยันไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเจ้าหน้าที่ตรวจหาสารเสพติดไม่พบ เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยมีและเป็นอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พ.ต.ต.ภูวนัฐ วงค์ษาภา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สอบถามนายตั๊มผู้เสียหาย เปิดเผยว่าก่อนก่อเหตุ 3 วัน นายประสิทธิ์ชัยนำโทรศัพท์มือถือของตัวเองมาขายในราคาพันกว่าบาท ตนจึงรับซื้อไว้โดยได้ขอเอกสารสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน เก็บไว้เป็นหลักฐานสำคัญ เพราะเกรงว่าจะเป็นมือถือขโมยมา สุดท้ายไม่คิดว่าห่างกันแค่ 3 วัน ผู้ก่อเหตุทำทีมาถามหามือถือเครื่องดังกล่าว แต่ตนได้แจ้งไปว่าขายต่อให้ลูกค้าอีกคนไปแล้ว จากนั้นนายประสิทธิ์ชัยก็ออกไปยืนสูบบุหรี่ที่หน้าร้าน ตนจึงบอกให้ไปสูบไกลๆเพราะเหม็นกลิ่นบุหรี่ ในขณะที่ตนกำลังนั่งทำงานอยู่ นายประสิทธิ์ชัยไปคว้ามีดยาวที่อยู่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์มาล็อกคอจี้ขู่จะทำร้าย หากไม่ส่งมือถือเครื่องนั้นให้ ตนจึงตั้งสติเกลี้ยกล่อมเอาเงินสดที่มีในลิ้นชักให้ไป 600 บาท นายประสิทธิ์ชัยจึงรับและวิ่งหลบหนไป หลังเกิดเหตุได้รีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ และนำสำเนาบัตรประชาชนเป็นหลักฐานชี้เบาะแสสำคัญ และมีการติดตามจับกุมตัวได้

ซึ่งผู้สื่อข่าวสอบถามนายประสิทธิ์ชัยผู้ต้องหา จึงทราบว่าติดเกมส์ออนไลน์จนงอมแงม หลังนำเงินที่ขายมือถือได้พันกว่าบาท ก็นำไปเล่นเกมส์บาคาร่าจนหมด จึงหวนกลับมาถามหามือถือเครื่องนั้น โดยอ้างว่าอยากได้คืน เพราะอ้างว่ามีเกมส์อยู่ในเครื่องเยอะ แต่พอหลังได้เงินไป 600 บาท ก็แวะไปซื้อของหนึ่งร้อย ที่เหลือจะเก็บไว้เล่นเกมส์ออนไลน์ต่อ และไม่คิดว่าตำรวจจะตามมาจับกุมตัวถึงบ้าน เพราะลืมไปว่าตนเองเคยมีเอกสารสำเนาบัตรประชาชนให้ไว้ เนื่องจากนำมือถือมาขายให้เมื่อ 3 วันก่อน  ยอมรับติดเกมส์หนักจนหน้ามืดตามัว

หน้าแรก » อาชญากรรม