วันที่ 9 พ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.รัชยศ มาศพันธ์ ผกก.สภ.หัวตะพาน อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ พ.ต.ท.ปัญญา นราชัย รอง ผกก.สส.สภ.หัวตะพาน พ.ต.ท.วรเดช พลอยพันธ์ รอง สว.สส.สภ.หัวตะพาน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หัวตะพานจำนวนหนึ่ง ได้จับกุมตัว นายมนตรี ในพื้นที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ในข้อหากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ตามหมายจับศาลจังหวัดอำนาจเจริญ ที่ 233/2567 ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2567

ซึ่ง นายมนตรี ก้อนน่วม ผู้ต้องหามีอาชีพรับจ้างทั่วไปให้การรับสารภาพว่า เดือดร้อนเงิน มีคนจ้างเปิดบัญชีธนาคาร เมื่อมีเงินเข้ามาในบัญชี ก็ไปกดเงินมาให้ผู้ว่าจ้าง โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 2,000 บาท นายมนตรี ผู้ต้องหารับสารภาพ

สืบเนื่องจาก พระครูกมล วัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดป่าทองสมรรัตนาราม และเจ้าคณะตำบลโพนเมืองน้อย อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ ได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวน สภ.หัวตะพาน อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ กรณีได้จัดงานกฐินสามัคคี ที่วัดป่าทองสมรรัตนาราม ในระหว่างวันที่ 21 – 22 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา หลังเสร็จงานกฐินมีคนโทร.มาหา และบอกว่า รู้จักกับอาตมาดี ประกอบกับ แอบอ้างชื่อ ส.ส.คนดัง ซึ่งเคยช่วยเหลือวัดต่อเนื่อง และ แอบอ้าง มีนายทหาร ยศ พล.อ.และคุณนาย มีความประสงค์จะถวายบ้านน็อคดาว จำนวน 12 หลัง โต๊ะหมู่ชุดมุก 2 ชุด รถยนต์เก่าสภาพใช้งานได้ดี จำนวน 2 คัน งาช้างเก่า 1 คู่ รถก๊อฟ 1 คัน โซฟาชุดหลุยรับแขก 2 ชุด เครื่องใช้สำนักงาน คอมพิวเตอร์และเก้าอี้หุ้มหนังเทียมโครงสแตนเลส จำนวน 300 ตัว เนื่องจากขายที่ดินได้เงินหลายร้อยล้านบาท พร้อมกับให้เบอร์โทร.ให้สอบถามรายละเอียดต่างๆ

ต่อมา พระสงฆ์(ผู้เสียหาย)ได้โทร.ติดต่อไปตามเบอร์ดังกล่าว จึงทราบว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าใช้จ่ายยกบ้านน็อคดาว 12 หลังๆละ 400 บาท และให้พระสงฆ์(ผู้เสียหาย)ออกเงินไปก่อน และ คนโทร.(มิจฉาชีพ) กำชับว่า วันที่ 31 ต.ค.67 จะถวายเงินให้สร้างอุโบสถ จำนวน 1 ล้านบาท พร้อมเพื่อน ส.ส.ช่วยอีกรวม 5 แสนบาท รวมเป็นเงิน 1,500,000 บาท ที่จะถวายวัดสร้างอุโบสถ และ เวลา 10.00 น. ท่าน ส.ส.พร้อมคุณนายภรรยา จะมาพบที่วัด ซึ่งเป็น ส.ส.ที่พระสงฆ์รู้จัก จึงเดินทางไปที่ร้านสะดวกซื้อในตัวอำเภอหัวตะพาน โดยโอนผ่านตู้ เอทีเอ็ม จำนวนเงิน 50,000 บาท เพื่อเป็นค่าดำเนินการต่างๆ กระทั่ง เกิดความไม่ชอบมาพากล เมื่อมีคน(มิจฉาชีพ)โทร.มาเป็นครั้งที่ 3 ให้โอนไปให้อีก จำนวน 30,000 บาท รวม 80,000 บาท ซึ่งอ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ จึงปรึกษากับทนายความและคนรู้จัก ซึ่งต่างลงความเห็นว่า เป็นพวกหลอกลวงตุ้มตุ๋น ให้แจ้งตำรวจจับกุม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้ติดตามผู้ร่วมขบวนการต่อไป