วันอังคาร ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568 11:01 น.

อาชญากรรม

ตร.ปะทะเดือด! วิสามัญผัวโหดยิงเมียดับคาห้อง

วันพุธ ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2567, 17.59 น.

จากกรณี นางจิตรา ยินดีพจน์ อายุ 46 ปี ถูกนายวสันต์ ยินดีพจน์ อายุ 52 ปี (ป๋าหนุ่ม) สามีใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตภายในบ้าน 40/3 ม.4 ต.โคกข้าง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา สาเหตุมาจากความหึงหวง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันที่ 25 ธันวาคม 2567 พล.ต.ต โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา เผย ความคืบหน้าล่าสุดพนักงานสอบสวนสอบสวน สภ.บางไทร ได้ ขอศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาออกหมายจับ นายวสันต์ ยินดีพจน์ อายุ 51 ปี ในข้อกล่าวหา ฆ่าคนตายโดยเจตนาจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบเบาะแสคาดว่านายวสันต์ ผู้ก่อเหตุ จะหลบซ่อนตัว  ภายในบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 3 ต.โคกช้าง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่ง ห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 600 เมตร นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. บางไทร สภ.ช้าง และ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กว่า 50 นาย อาวุธครบครบมือ ปิดล้อม บ้านหลังดังกล่าว ที่คาดว่าผู้ก่อเหตุจะหลบซ่อนอยู่ด้านในและเกรงว่าจะเกิดการต่อสู้เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนติดตัวและมีการขู่ฆ่าล้างครัว จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจนำ นางเฉลา ยินดีพจน์ อายุ 83 ปี แม่ของนายวสันต์ ผู้ต้องหา มาเพื่อเจรจา อยู่ระหว่างการวางแผน

 

 

นางเฉลาแม่ของนายวสันต์ ตนเอง เพิ่งจะทราบเหตุการณ์เมื่อเช้าว่าลูกชายไปยิงภรรยาเสียชีวิตเจ้าที่ติดต่อให้มาช่วยเจรจากับ ลูกชายรายละเอียดเรื่องส่วนตัวของลูกชายยังไม่ค่อยทราบ ลูกชายจไปอยู่บ้านกับของภรรยาไม่ค่อยได้ติดต่อกลับมา


ต่อมาพล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภจว.พระนครศรีอยุธยา เดินทางมาควบคุมสถานการณ์ที่เกิดเหตุพร้อมกับเปิดเผยว่า ขณะนี้เราสืบทราบว่าผู้ต้องหาซึ่งมีอาวุธปืนหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านทางดังกล่าวจึงได้ทำการปิดล้อมเอาไว้อยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์เพื่อความปลอดภัยเพื่อให้เกิดการสูญเสียและจะเริ่มเจรจากับตัวผู้ต้องหา พยามกันประชาชนบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกับบ้านหลังดังกล่าวให้ออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย

สอบถาม นางสาว เอ (นามสมมุติ) เจ้าของบ้าน ที่นายวสันต์ หลบซ่อนตัวอยู่ กล่าวว่า รู้จักกันกับนายวสันต์ เพราะเป็นเพื่อนบ้านกัน ตอนสองทุ่มมาที่บ้านบอกว่า เพิ่งจะยิงภรรยาตาย มาขอนอนจึงให้นอนเพราะว่ากลัว แต่ตนเองไม่เชื่อเพราะพูดแบบนี้มาหลายครั้ง จนเช้ามืดตนเองออกไปขายของที่ตลาดตามปกติ และมาทราบข่าวว่า นายวสันต์ ไปก่อเหตุยิงภรรยาเสียชีวิตมาจริง จึงรียแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 


จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้โดนบินเพื่อสำรวจพื้นที่พร้อมการประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงจากที่เกิดเหตุจากนั้น ใช้กำลังเข้าไปปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าว ที่คนร้ายใช้หลบซ่อนตัวก่อนจากนั้นคนร้ายเปิดฉากใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้มา จึงเกิดการยิงต่อสู้กันเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 30 ถึง 40 นัด หลังสิ้นเสียงปืน เจ้าที่ตำรวจรวจถูกยิงได้รับบาดเจ็บ สองนาย เร่งช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลบางไทร ส่วนนายวสันต์ (ป๋าหนุ่ม) มีรายงานเบื้องต้นว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญอยู่ภายในบ้านซึ่งขณะนี้ยังโทรกันพื้นที่ไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปด้านใน ซึ่งมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป


ต่อมาเวลา 12.40 น. ผบช.ภาค1 รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วยแพทย์ ฝ่ายปกครอง อัยการ เข้าตรวจสอบบ้านหลังเกิดเหตุ พบว่าบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว

 

 

พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช. ภาค1 เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่าตนเองได้รับรายงานจากท่านผู้กำกับการบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนถึงช่วงเช้าได้รับรายงานว่าพบตัวผู้ต้องหา มาหลบซ่อนตัวอยู่บ้านหลังหนึ่ง จึงได้ทำการปิดล้อม ใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางไทร ชุดสืบสวน ภจว.พระนครศรีอยุธยา และหน่วยปฎิบัตอการพิเศษของ ภาค1 และกั้นประชาชนที่อยู่โดยรอบบ้านให้ออกห่าง เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปแสดงตัวเพื่อที่จะจับกุม ผู้ต้องหาได้อาวุธปืนยิงตอบโต้ออกมา กระสุนปืน ลอดใต้โล่ห์ออกมาจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 2 นาย

 

แล้วเกิดการยิงปะทะกัน ผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามทำตามขั้นตอนและยุทธวิธีของตำรวจแล้ว มีการประเมินสถานการณ์แล้วจึงตัดสินใจ

 

 

จากการเข้าไปตรวจสอบ พบร่องรอยของการใช้อาวุธปืนทั้งของคนร้ายที่ยิงออกมา และของเจ้าหน้าที่ยิงตอบโต้เข้าไปด้วย พบอาวุธปืน ของคนผู้ต้องหา ขนาด 9 มม.ใช้แมกกาซีนแบบยาว บรรจุกระสุนได้20-30นัด ผู้ต้องหามีบาดแลกถูกยิงบริเวณหน้าอก นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณห้องโถ่งของบ้าน ใกล้กับประตูทางเข้าบ้าน

 

ในส่วนที่ทางญาติมีความสงสัยถึงการปฎิบัติหน้าที่ การชันสูตรพลิกศพ การตรวจสถานที่เกิดเหตุ ตามขั้นตอนของกฎหมายจะตรวจสอบร่วมกับพนักงานสอบสวนอัยการจังหวัดฝ่ายปกครองและแพทย์

 

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษของตำรวจภูธรภาค1 ทราบชื่อ ด.ต.กิตติศักดิ์ สุขประเสริฐ ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.สส.ภ.1 ถูกยิงด้วยอาวุธปืน เข้าที่บริเวณ ขาขวา เข่าขวา อาการปลอดภัย และ ด.ต.วิสุทธิ์ชัย ฉวีเวช ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.สส.ภ.1 บาดเจ็บถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ ขาซ้าย 1 นัด สะโพกขวา 1 นัด เส้นเลือดใหญ่ขาด อาการสาหัส เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 นายได้เคลื่อนย้ายจากโรงพยาบาลบางไทรไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลตำรวจแล้ว


เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วยแพทย์ ฝ่ายปกครอง อัยการ เข้าเก็บหลักฐานและร่องรอยกระสุนปืนวิถีกระสุนในจุดเกิดเหตุร่วมกันจากนั้นมอบร่าง ผู้เสียชีวิตให้กับทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งชันสูตรศพที่ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จังหวัดปทุมธานีต่อไป

 

หน้าแรก » อาชญากรรม