เมื่อวันที่ 17 มกราคม  2568 พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผบก.ภ.จ.ตาก รับงานจากสายลับ ว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อจะเข้ามารับจ้างทำงานในพื้นที่ชั้นในของไทย  โดยใช้รถยนต์กระบะเป็นพาหนะนำพา บรรทุกแรงงานต่างด้าวดังกล่าว มาจาก แนวตะเข็บชายแดนบริเวณบนถนนสายแม่สอด – อุ้มผาง  ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 54 - 55 หมู่ที่ 5  ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก จึงสั่งการให้ พ.ต.อฉัตรชัย คำยิ่ง ผกก.สภ.พบพระ นำกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจโดยแบ่งกำลังออกเป็นสองชุด จุดซุ่มและจุดสกัดดวลาต่อมามี รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ Nissan รุ่น นาวาล่า  สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 2ฒข-4615 กทม.โดยมีนายเซ้ง อายุ43ปี เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง เป็นคนขับรถยนต์คันดังกล่าว  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา  ทั้งหมดจำนวน 14 ราย แยกเป็นชาย 12 ราย เป็นหญิง 2ราย นั่งอยู่ในรถตรวจสอบแล้วไม่พบหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดจึงควบคุมนายเซ้งและแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ทั้งหมดส่งใหพนักงานสอบสวน สภ.พบพระ เพื่อสอบปากคำและขยายผล 

จากการสอบสวนนายเซ้ง ให้การรับสารภาพว่าตนได้รับการว่าจ้างให้ไปรับชาวเมียนมา มาจากบริเวณไร่ข้าวโพด ริมถนนสายพบพระ- ช่องแคบ บ้านห้วยน้ำนัก หมู่ที่ 4 ต.พบพระ อ.พบพระ เพื่อไปส่งบริเวณตลาดชุมชนบ้านร่มเกล้าสหมิตร กิโลเมตรที่ 60 บ้านร่มเกล้าสหมิตร หมู่ 5 ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ จ.ตาก  โดยค่าจ้างจะได้รับเมื่อไปส่งชาวเมียนมาเรียบร้อยแล้ว

สอบถามกลุ่มชาวเมียนมา ให้การว่า ได้เดินทางเข้ามายังฝั่งประเทศไทยเพื่อมาหางานในพื้นที่ชั้นในของประเทศไทยโดยได้รับติดต่อจากนายหน้าชาวเมียนมาผ่านนายหน้าคนไทย โดยถ้าแรงงานต่างด้าวดังกล่าวเดินทางไปถึงจุดหมายจะต้องจ่ายค่านายหน้าทั้งหมด ประมาณ 10,000 – 12,000 บาท โดยนายจ้างจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ก่อน และต้องทำงานใช้และหักค่าใช้จ่ายจากแรงงานที่หลัง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ ดำเนินการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ NRM และดำเนินการสืบสวนขยายผลขบวนการลักลอบนำพาบุคคลต่างด้าว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป