วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 12:41 น.

อาชญากรรม

โมโหถูกด่ากระจอก "หนุ่มใหญ่" ใช้ขวานจามหัวเมียเพื่อนดับสยอง

วันพฤหัสบดี ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 14.52 น.

วันที่ 20 ก.พ. 68 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปดูที่เกิดเหตุ ที่บ้านหนองขนาน ตำบลโพธิ์กระสังข์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ หลังได้รับแจ้งว่าเมื่อคืนเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 19 ก.พ. 68 เกิดเหตุมีคนใช้ขวานจามหัวผู้หญิงเสียชีวิตที่กระท่อมกลางสวนยางพารา หลังบ้าน ตำบลโพธิ์กระสังข์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ผู้ก่อเหตุ คือ นายนิพล อายุ 54 ปี หรือ ไอ้จ่อย ส่วนผู้เสียชีวิตคือ นางราตี อายุ 54 ปี

พอไปถึงพบชาวบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ ขนเต็นท์ มาเตรียมกาง โดยมีชาวบ้านพาผู้สื่อข่าวไปดูจุดเกิดเหตุที่เป็นกระท่อมหลังบ้านของผู้ตาย ซึ่งสภาพพื้นที่เกิดเหตุมีกองเลือดกองอยู่ที่พื้น มีรองเท้าวางอยู่ 2 คู่ ซึ่งเป็นรองเท้าของผู้เสียชีวิตและของผู้ก่อเหตุ (คู่สีขาวของผู้ตาย คู่สีน้ำตาลของผู้ก่อเหตุ) โดย นายบรรจง อายุ 76 ปี ต.โพธิ์กะสังข์ ซึ่งเป็นสามีของผู้ตาย เล่าให้ฟังว่า วันที่เกิดเหตุตนไม่ได้อยู่บ้าน ตนไปช่วยงานศพญาติที่อยู่ต่างหมู่บ้าน ตนมาทราบว่าภรรยาถูกฆ่าตาย ก็เพราะผู้ใหญ่โทรไปบอกเมื่อช่วงเวลา 4 ทุ่มกว่า ทั้งนี้ตนกับ ไอ้จ่อย (ผู้ก่อเหตุ) รู้จักกันมานานแล้ว เมื่อช่วงกลางวันก่อนที่ตนจะออกไปงานศพ ก็ยังเจอและพูดคุยกันอยู่ ตนคิดว่าสาเหตุที่ทำให้ ไอ้จ่อย ฆ่าภรรยาของตนน่าจะเกิดจากการทะเลาะวิวาทแล้วเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวบวกกับดื่มสุราเมาด้วย ทำให้ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่จึงก่อเหตุขึ้น ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุยังเคยถูกดำเนินคดีมาหลายคดีแล้ว ส่วนภรรยาของตนหรือผู้ตายเป็นคนนิสัยอ่อนโยน เป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ใครมาก็ต้อนรับหมด ตนไม่คิดว่าจ่อยจะก่อเหตุฆ่าภรรยาตนได้โหดเหี้ยมขนาดนี้  ตนไม่ขอให้อภัยไอ้จ่อย (ผู้ก่อเหตุ)

ด้าน นางจิราภา บุตรดี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ตำบลโพธิ์กระสังข์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 4 ทุ่มกว่า ไอ้จ่อย (ผู้ก่อเหตุ) ได้ขับจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125i สีเทา หมายเลขทะเบียน 1 กร 1110 ศรีสะเกษ มาเรียกตนซึ่งมาคนเดียว แต่ตอนแรกตนไม่ยอมเปิดประตู ก่อนที่ ไอ้จ่อย (ผู้ก่อเหตุ) จะไปเรียกคนในหมู่บ้านพามาเรียก ตนจึงลุกขึ้นมาเปิดประตู ก่อนที่ตนจะถาม ไอ้จ่อย (ผู้ก่อเหตุ) ว่ามาเรียกทำไหม ไอ้จ่อย (ผู้ก่อเหตุ) ตอบว่าจะมามอบตัวเพราะไปฆ่าคนตาย ตอนนั้นตนไม่เชื่อ เพราะเวลาเมา ไอ้จ่อย (ผู้ก่อเหตุ) กับผู้ตาย จะทะเลาะกันเป็นประจำ จึงคิดว่า ไอ้จ่อย (ผู้ก่อเหตุ) คงพูดโกหก จังหวะที่ตนกำลังยืนคุยกัน ไอ้จ่อย (ผู้ต้องหา) พอดีมีรถยนต์เจ้าหน้าที่ตำรวจขับผ่านมาพอดี ตนจึงเรียกให้จอด และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ใช้กุญแจมือล็อคมือ และนำตัว ไอ้จ่อย (ผู้ก่อเหตุ) ขึ้นรถยนต์ตำรวจเพื่อไปดูที่เกิดเหตุ โดยพอไปถึงที่เกิดเหตุก็เห็นว่า ไอ้จ่อย (ผู้ต้องหา) ฆ่าคนตายจริงๆ ตามที่กล่าวอ้าง

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรกันทรอม โดยได้พูดคุยกับ ไอ้จ่อย (ผู้ต้องหา) ซึ่งได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ที่ต้องลงมือก่อเหตุฆ่า นางราตรี ผู้เสียชีวิต เพราะตนมึนเมา บวกกับผู้ตายจะชอบพูดดูถูกตนว่าตนชั่ว ว่าตนกระจอก จะทำอะไรกับตนก็ได้ ผู้ตายชอบพูดดูหมิ่นตน พูดแต่คำนี้มาโดยตลอดหลายเดือนแล้ว โดยปกติตนจะชอบมาคลุกคลีกับครอบครัวผู้ตายเป็นประจำเวลาบ้านผู้ตายมีงานก็จะเรียกใช้ตนอยู่ตลอด ผู้ตายจะให้เงินใช้ หุงข้าวทำกับข้าวให้กิน ขวานที่ตนใช้ก่อเหตุก็เป็นขวานของผู้ตายที่ให้ตนไว้ใช้

ด้าน พ.ต.ท. ณรงค์ ปิยะพันธ์ สารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรกันทรอม เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนเมาอาระวาดอยู่ที่หมู่บ้านที่เกิดเหตุ จึงให้สายตรวจออกตรวจที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง แต่ไปถึงได้เจอผู้ใหญ่บ้านเรียกให้จอดและแจ้งว่า ไอ้จ่อย (ผู้ต้องหา) มาบอกว่าไปฆ่าคนตายให้ไปตรวจสอบหน่อย จึงได้ควบคุมตัวและนำตัวไปที่เกิดเหตุ พอไปถึงก็พบว่ามีผู้เสียชีวิตจริง จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับ ก่อนจะเรียกชุดพิสูจน์หลักฐานมาตรวจที่เกิดเหตุ โดยสภาพศพผู้เสียชีวิต บริเวณศรีษะด้านซ้ายมีบาดแผลขนาดใหญ่ยาวจากกลางหัวถึงหน้าผากเหนือคิ้ว  แผลยาวประมาณ 18-20 เซนติเมตร และ บริเวณกระท่อมที่เกิดเหตุพบขวานที่มีคราบเลือดตกอยู่และมีร่องรอยการต่อสู้ นอกจากนี้ยังพบเหล้าขาวที่ยังกินไม่หมดอยู่ในที่เกิดเหตุอีกด้วย

เบื้องต้นตำรวจนำตัว ไอ้จ่อย มาตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง พร้อมกับรับสารภาพว่าตนเป็นคนลงมือใช้ขวานจามหัวผู้ตายจริง ทั้งนี้ได้ตั้งข้อหากับ ไอ้จ่อย ว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธขวานไปที่หมู่บ้านหรือที่สาธารณะ และเสพสารเสพติด ก่อนจะได้นำตัวฝากขังที่ศาลกันทรลักษ์ ในวันพรุ่งนี้เพื่อดำเนินการต่อไป

หน้าแรก » อาชญากรรม