กรณี มีคนร้ายแอบเข้าไปลักขโมยทรัพย์ชาวบ้าน จำนวน 2 หลัง ในช่วงที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ โดยต่างวันและเวลา  ครั้งเเรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 18.30 น.  นางพรรณวดี เบรีย์ อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 131 หมู่ที่ 5 บ้านซ่ง ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนฯ ว่า บ้านเป็นปูนชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด หลังจากกลับจากทำธุระ พบบริเวณหน้าต่างด้านซ้ายของตัวบ้าน มีรอยถูกงัดและเปิดอ้าออก เมื่อเข้าไปภายในบ้านที่ตู้เครื่องเเป้งมีร่องรอยถูกงัดได้รับค่าเสียหาย ตรวจดูสิ่งของในเก๊ะเเหวนทองคำหนัก 2 สลึง 1 วง สร้อยคอทองคำหนักเส้นละ 1 บาท 3 เส้น  กำไลทองคำเเขนหนักเส้นละ 1 บาท 2 เส้น และเเหวนเพชร 3 วง รวมความเสียหายประมาณ  500,000 บาท ได้อันตธานหายไป จึงรีบมาแจ้งความเพื่อติดตามคนร้ายรายนี้

ถัดมาอีก 3 อาทิตย์กว่าคือวันที่  26 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาบ่ายสองโมงเศษ นายบุญมี เครือพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกิจเจริญ เจ้าของบ้านเลขที่ 152 หมู่ที่ 7 บ้านหนองเรือทอง ต.บ้านเเก้ง อ.นาแก จ.นครพนม ได้แจ้งว่าหน้าต่างบ้านถูกงัด คนร้ายเข้าไปทุบกระจกห้องนอน รื้อค้นหาสิ่งของจนกระจุยกระจาย โดยได้ตรวจสอบทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมมี วัตถุมงคลพระเครื่องชุดใหญ่ไม่ทราบจำนวน  แหวนทองคำน้ำหนักวงละ 50 สตางค์  จำนวน 6 วง ธนบัตร 100,500,1,000 บาท  ร.9 ที่สะสมเก็บไว้ รวมมูลค่าเกือบ 600,000 บาท โดยรวมมูลค่าความเสียหายทั้งสองแห่ง ประมาณ 1 ล้านบาทเศษ   

 ต่อมา พ.ต.อ.ณรงค์ วงค์ธรรม รักษาการ ผกก.สภ.นาแก  ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวเกี่ยวกับโจรรายนี้อย่างเร่งด่วน โดยไล่เช็คจากกล้องวงจรปิดในบ้านที่เกิดเหตุ และตามสถานที่ต่างๆ กระทั่งพบพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยยี่ห้อฮอนด้า รุ่น MOOVE ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับผ่านหน้ากล้องในเวลาไล่เลี่ยกัน หลังก่อเหตุงัดบ้าน ผอ.รร.อนุบาลนาแกผดุงราชกิจเจริญ จึงตรวจสอบที่อยู่และทราบเบื้องต้นว่า ผู้ต้องสงสัยชื่อนายวาทิน อายุ 35ปี ต.โพนทอง อ.เรณูนคร จ.นครพนม

วันที่ 1 มีนาคม 2568  เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงนำกำลังไปยังบ้านเลขที่ดังกล่าว ปรากฏว่ารถเจ้าหน้าที่ได้ขับสวนกับรถจักรยานยนต์ของนายวาทิน บริเวณกลางหมู่บ้านโพนนทองพอดี จึงให้สัญญาณหยุดรถ แต่นายวาทินพยายามจะเร่งเครื่องหลบหนี และขัดขืนการจับกุมกว่าจะสยบได้ก็เล่นเอาเจ้าหน้าที่เหนื่อย

จากนั้นได้คุมตัวนายวาทินไปตรวจค้นที่บ้านพัก พบทรัพย์สินหลายรายการที่โจรกรรมไป  ต่อมาเจ้าทุกข์ทั้งสองราย ได้เดินทางมาตรวจสอบทรัพย์ ยืนยันว่าเป็นของตนเองเเต่เหลือน้อยมาก  เบื้องต้นนายวาทินอ้างว่าเก็บสิ่งของเหล่านี้ได้ที่ถนนทางเข้าหมู่บ้าน จึงนำมาเก็บไว้ที่บ้าน เเต่วันนี้บังเอิญวขับรถมอเตอร์ไซค์มาเจอกับชุดจับกุม เกิดอาการตกใจจึงเร่งเครื่องรถหนี ชุดจับกุมจึงนำตัวนายวาทินพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อเปรียบเทียบกับหลักฐานที่ตรวจเจอในที่เกิดเหตุทั้งสองแห่ง พร้อมส่งนำตัวผู้ต้องหาให้กับ ร.ต.ท.สมภพ ห้วยทราย รอง.สารวัตร (สอบสวน) สภ.นาแก ดำเนินคดีต่อไป