วันที่ 5 มีนาคม 2568 ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 235 (ร้อย ตชด.235) อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 พร้อมด้วย พ.ต.ท.อุดร  สุนนทราช  ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 235 พ.ต.ท.วัฒนพล  ดาแก้ว ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 235 และส่วนราชการหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ได้แถลงข่าว จับผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 138,000 เม็ด ในพื้นที่ อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร

โดยเมื่อช่วงตอนของวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ร้อย ตชด.235  สืบทราบว่าจะมีกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ เข้ามาเคลื่อนไหวในเขตรับผิดชอบ  และลำเลียงยาเสพติดผ่านพื้นที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เพื่อไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ตอนใน โดยใช้รถเก๋งยี่ห้อมาสด้า สีดำ ทะเบียน งต 2529 ขอนแก่น เป็นพาหนะ  จึงได้ประสานไปยังหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง ร่วมประชุมวางแผนจับกุม โดยได้แบ่งกำลังออกสังเกตการณ์ และสะกดรอยติดตามตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้เป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด

กระทั่งเวลาประมาณสามทุ่มเศษ ชุดจับกุมตรวจพบรถเก๋งมาสด้า สีดำ ป้ายทะเบียนตรงตามที่สายสืบรายงาน กำลังขับขี่มาตามเส้นทางถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 212 (ชยางกูร) ผ่านสามแยกไฟแดงบ้านต้อง ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม  มุ่งหน้าไปยังในเขต จ.มุกดาหาร เจ้าหน้าที่จึงขับรถสะกดรอยติดตาม ปล่อยให้แล่นผ่านทางแยกไฟแดงบ้านคำป่าหลาย ไปจนเกือบถึงทางแยกเข้าสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) ซึ่งเป็นสามแยกไฟแดงบ้านโคกสูง หมู่ที่ 3 ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร เจ้าหน้าที่ใช้จังหวะขับรถปิดหน้าปิดท้าย พร้อมเข้าชาร์ทตัวเพื่อทำการตรวจค้น พบคนขับทราบว่าชื่อนายอนุชา (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี เป็นชาว จ.ขอนแก่น และ นายอาทิตย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ชาว จ.ลพบุรี นั่งเบาะด้านซ้ายข้างคนขับ ที่เบาะหลังมีกระสอบปุ๋ย 1 ใบ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1ยาบ้า จำนวนประมาณ 138,000 เม็ด  จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนเพิ่มเติม และยึดของกลางไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนเบื้องต้นนายอนุชาชาวเมืองขอนแก่น ให้การว่าได้รับการว่าจ้างจากนายทุน ที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊ก มีการสอบถามอาชีพทำมาหากิน เมื่อเห็นว่าตนทำงานรับจ้างฝืดเคือง จึงชวนให้ขับรถขนยาบ้า โดยให้ค่าจ้างครั้งละ 50,000 บาท จึงตกปากรับคำขับรถไปรับยาบ้าที่ริมมแม่น้ำโขง ไปตามจุดที่นายทุนสั่ง โดยจะมีรถมารับต่อไปเป็นช่วงๆ เกิดย่ามใจเพราะเห็นว่าได้เงินง่ายจึงทำเป็นครั้งสอง และได้ชวนนายอาทิตย์มานั่งเป็นเพื่อน โดยให้ค่าเสียเวลา 5,000 บาท และไปรับยาบ้าที่จุดเดิมบริเวณริมแม่น้ำโขง ต.แสนพัน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม คิดว่าครั้งนี้ก็รอดเหมือนที่ผ่านมา ไม่คาดว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ล่อให้ไปติดกับตรงไฟแดง จึงถูกชาร์ทจับกุมดังกล่าว ซึ่งนายอนุชาก้มหน้าพูดด้วยน้ำตาคลอดเบ้า ว่า เพิ่งได้ลูกสาวอายุแค่ 3 เดือน ตอนนี้คิดถึงแต่หน้าลูกน้อย  และเมียก็ยังไม่รู้ว่าตนถูกจับ

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า“ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือ) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” จากนั้นได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน  สภ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทางด้าน พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 กล่าวว่า ตามที่ รัฐบาล ได้เปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน Seal Stop Safe และนโยบายเน้นหนักด้านปราบปรามยาเสพติดของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.นิตินัย หลังยาหน่าย ผบช.ตชด. พลโทบุญสิน  พาดกลาง  แม่ทัพภาคที่ 2 และ พลตรีสุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ทางกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 ก็ได้เปิดปฏิบัติการพิทักษ์ริมน้ำโขง ป้องกันปราบปรามยาเสพติดจากแนวชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งดำเดินการใน 3 ด้าน คือ ด้านการข่าว การลาดตระเวนเฝ้าตรวจชายแดน และการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในจุดเสี่ยงต่างๆ

ในการจับกุมครั้งนี้ จะเห็นได้ว่า ผู้ค้ายาเสพติดยังพยายามใช้เส้นทางหลักและรองในการลำเลียงยาบ้า โดยทางชุดปราบปรามยาเสพติด ร้อย ตชด.235 ได้มีการสืบสวนหาข่าว ติดตามผู้ค้ายาเสพติดและมีผลการจับกุมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางตำรวจตระเวนชายแดนก็จะทำงานกันอย่างเข้มแข็ง และมุ่งมั่น เพื่อสกัดกั้น และป้องกันไม่ให้มีการนำเข้ายาเสพติด สู่พื้นที่ตอนในประเทศต่อไป