ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้แก้ไขปัญหาคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย คนต่างด้าวตั้งกลุ่มแก๊งกระทำความผิดหรือประกอบธุรกิจผิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ ได้มีหนังสือสั่งการเน้นย้ำให้หน่วยปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง บังคับใช้ 7 มาตรการ อย่างเข้มงวด ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา เนื่องจากปัจจุบันมีการไหลบ่าของ "กลุ่มทุนจีน" ที่เข้ามาลงทุนธุรกิจในประเทศไทยมากขึ้นครอบคลุมเกือบทุกธุรกิจ จากสินค้าราคาถูก ร้านอาหาร การขนส่ง รับเหมาก่อสร้าง รวมไปถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่กลุ่มทุนจีนให้ความสนใจไม่น้อย

กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว โดย พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอำ ผบช.ทท., พล.ต.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง,พล.ต.ต.กฤษณ์ วาฤทธิ์, พล.ต.ต.มล.สันธิกร วรวรรณ รอง ผบช.ทท., สั่งการให้ตำรวจท่องเที่ยวปฏิบัติตามนโยบาย ผบ.ตร โดยเคร่งคัด กก.สืบสวน บช.ทท. และ กก.2 บก.ทท.1 โดย พ.ต.อ.แมน รถทอง ผกก.สืบสวน บช.ทท. พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เชื่อพลากิจ ผกก 2 บก.ทท.1 พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ รักษา รอง ผกก.สืบสวน บช.ทท.,พ.ต.ท.กฤตพร แสงสระ สว.กก.สืบสวน บช.ทท.,ว่าที่ พ.ต.ต.สมชนก ชัยประเสริฐสกุล สว.กก.2 บก.ทท.1 

ทั้งนี้ ได้สืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มทุนจีน ที่เข้ามาประกอบธุรกิจด้านที่พัก ประเภทวิลล่าเพื่อปล่อยเช่าให้กับนักท่องเที่ยวในลักษณะโรงแรมที่พัก ทั้งในพื้นที่เมืองพัทยา โดยกลุ่มทุนจีนเหล่านี้ จะมีการนำเข้าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างรวมถึงอุปกรณ์ตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ มาจากประเทศจีน รวมถึงใช้แรงงานที่เป็นชาวจีน ที่เดินทางเข้ามาด้วยวีซ่า นักท่องเที่ยวประเภทฟรีวีซ่า เข้ามาทำงานออกแบบก่อสร้าง และควบคุมการก่อสร้าง รวมถึงระบบการจ่ายเงินต่างๆ ก็เป็นแอพวีแชทของประเทศจีน

วันที่ 11 มี.ค. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน พร้อม ชุดสืบสวน กก.2 บก.ทท.1 เข้าตรวจสอบพื้นพื้นที่ก่อสร้างบ้านพักพูวิลล่า ในพื้นที่พัทยา จำนวน 4 จุด จำนวนประมาณ 20 หลัง หลังมีเบาะแสว่ามีกลุ่มคนจีนและแรงงานต่างด้าวชาวเมียนม่า จำนวนประมาณ 40 คน เข้ามาทำงานก่อสร้างในพื้นที่ดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบชายหลายคนลักษณะเป็นคนต่างชาติ กำลังควบคุมการทำงานคนงานชาวพม่าก่อสร้างพูลวิลล่า สอบถามเบื้องต้นทั้งหมดแจ้งว่าเป็นชาวจีน และชาวเมียนมา

เมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบเอกสาร หนังสือเดินทาง และใบอนุญาตทำงานกลับไม่สามารถนำมาแสดงได้ จึงได้ทำการควบคุมตัวมตัวมาจัดทำบันทึกจับกุม และทำการแจ้งข้อหาพร้อมทั้งแจ้งสิทธิให้ทราบ ว่า "เป็นคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ประกอบอาชีพหรือรับจ้างทำงาน โดยไม่ได้ รับอนุญาต" ตาม พ.ร.บ.ตรวคนเข้าเมือง 2522 และ "เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงาน นอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้" ตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว" ในครั้งนี้สามารถควบคม ผู้ต้องหาชาวจีนได้ทั้งหมด 9 ราย และ แรงงานชาวเมียนมาจำนวน 16 ราย

โดยการจับกุมในครั้งนี้นั้นสืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 68 ได้ปิดล้อมตรวจค้นและจับกลุ่มกลุ่มชาวจีนที่เข้ามาประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยก่อนหน้านั้นได้เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจดันบริษัททุนจีน ให้การช่วยเหลือจัดตั้งบริษัทนิติบุคคลในลักษณะนอมินีให้กับชาวต่างชาติ เพื่อถือครองที่ดินและรับออกแบบก่อสร้างวิลล่าหรู รับทำคำร้องขอวีซ่ารับจ้างทำความสะอาด โดยในครั้งก่อนสามารถจับกุมชาวจีนที่ลักลอบเข้ามาทำงานได้หลายรายเช่นกัน