แก๊งทรชนมอมยาสาว 15 จนช็อค ร่วมกันรุมโทรมคาวงสุรา รวบตัวเค้นสอบ 6 รายมีเยาวชนรวมอยู่ด้วย หัวโจกสารภาพข่มขืนจริง

วันที่ 10 เมษายน 2568 นายนรพนธ์ (ขอสงวนสกุล) อายุ 43 ปี ชาวบ้านหนองปลาดุก หมู่ 18 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.ประดิษฐ์ โคตรชาลี รองสารวัตรสอบสวน สภ.กุตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม ว่าหลานสาว น.ส.แพรวา (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี คาดถูกแก๊งวัยรุ่นทรชนไม่น้อยกว่า 10 คน แอบมอมยาจนช็อคไม่ได้สติและรุมโทรม ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ รพ.นครพนม แต่ยังไม่พ้นขีดอันตราย
 

นายนรพนธ์เปิดเผยว่า ตนและภรรยาเป็นผู้เลี้ยงดู น.ส.แพรวาตั้งแต่แรกคลอด และหลังจากน้องชายคือพ่อของน้องแพรวาเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจล้มเหลวที่ จ.ระยอง ตอนนั้นน้องอายุได้ 10 ขวบ และก็อยู่ในความอุปการะของตนแต่นั้นมา ส่วนผู้เป็นแม่ก็ไปได้สามีใหม่ ตนก็เลี้ยงดูส่งเสียแต่จบแค่ชั้น ม.2 โรงเรียนในหมู่บ้าน

ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา หลานสาวขออนุญาตไปเที่ยวเล่นบ้านเพื่อนที่อยู่ ต.กุตาไก้ ห่างจากบ้านหนองปลาดุกประมาณ 30 กิโลเมตร กระทั่งเวลาประมาณห้าทุ่มเศษของวันที่ 9 เม.ย. ตนได้รับแจ้งแพทย์ รพ.ปลาปาก ว่า หลานสาวมีอาการช็อคและหายใจขัด โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.กุตาไก้นำตัวมารักษาตัวที่ รพ.ปลาปาก เมื่อตนมาถึงอาการน้องอยู่ในขั้นวิกฤต แพทย์จึงส่งรักษาต่อที่ รพ.นครพนม กระทั่งรุ่งเช้าวันที่ 10 เม.ย.แพทย์อนุญาตให้เฉพาะตนผู้เดียวให้เข้าไปดูอาการหลานสาวที่มีเครื่องช่วยหายใจ และให้อาหารทางสายยาง ซึ่งแพทย์ยังระบุสาเหตุไม่ได้ แต่มีอาการดื้อยาคล้ายถูกมอมยา โดยแพทย์ที่ รพ.ปลาปาก ได้ฉีดยาเพื่อให้หลานสาวหลับถึง 4 เข็ม แต่ไม่สามารถทำให้หลานสาวหลับได้ สภาพหลานสาวในห้องฉุกเฉินมีผ้ามัดแขนขาเพราะคลุ้มคลั่งดิ้นไปมาบนเตียงคนไข้ เห็นสภาพแล้วทำใจไม่ได้ ถ้ามาถึงมือแพทย์ช้าอีกนิดหนึ่ง น้องแพรวาคงจะเสียชีวิตไปแล้ว
 

ส่วน นายม่อน (ขอสงวนสกุล) อายุ 19 ปี ชาวบ้าน ต.กุตาไก้ ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่กล่าวว่า เพื่อนสาวของตนชื่อน้องมาย (นามสมมติ) อายุ 15 ปี เป็นคนบ้านเดียวกับน้องแพรวา และเป็นเพื่อนนักเรียนชั้นเดียวกันมาก่อน ได้เห็นน้องแพรวามาเที่ยวเล่นบ้านเพื่อน ที่มีแต่พวกผู้ชายหลายคน ก่อนทั้งหมดจะชวนกันไปดื่มสุราที่บ้านหลังหนึ่ง อยู่ที่บ้านนาเลียง ต.กุตาไก้ และหายไปนานจนเป็นห่วง ตนกับน้องมายจึงขับรถจักรยานยนต์ไปตามกลับ เห็นน้องแพรวาซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวนั่งดื่มกับผู้ชายประมาณ 8 คน  จึงชวนกลับแต่น้องมายขอดื่มกับเพื่อนๆก่อน ตนได้กลับมาที่บ้านกุตาไก้จนค่ำ ก็ยังไม่มีวี่แววว่าน้องแพรวาจะกลับ จึงไปตามอีกเป็นคำรบสอง ครั้งนี้น้องแพรวามีอาการเมาอย่างเห็นได้ชัด ตนพยายามดึงแขนให้กลับ ก็ถูกปฏิเสธและไล่ให้ตนกลับ กระทั่งห้าทุ่มเศษตนไปตามเป็นครั้งที่สาม เห็นน้องแพรวานอนหมดสติในสภาพท่อนบนสวมเสื้อชั้นใน ส่วนท่อนล่างสวมกางเกงยีนส์ขาสั้นที่ไม่ได้รูดซิป ตนพยายามเรียกให้ได้สติก็ไม่มีการตอบสนอง จึงอุ้มมาที่รถจักรยานยนต์ พร้อมโทรประสานกู้ชีพ อบต.กุตาไก้ มารับไปส่ง รพ.ปลาปาก ระหว่างทางน้องแพรวาหายใจขัดและฉี่แตก เมื่อถึงโรงพยาบาลทราบว่าน้องน่าจะถูกวางยา แต่ไม่ทราบชนิด ตนจึงประสานนายนรพนธ์ผู้เป็นลุงมาดูอาการหลานสาวดังกล่าว
 

ด้าน นายอนุวงค์ ภูศรีเงิน อายุ 54 ปี กู้ชีพ อบต.กุตาไก้ เผยว่าได้รับแจ้งจากวัยรุ่นที่ช่วยเหลือแจ้งว่ามีหญิงสาวอายุ 15 ปีเมาสุราหมดสติ จึงออกเหตุไปรับตัวช่วง 5 ทุ่มวันที่ 9 เม.ย.68 เจอผู้ชายขับรถจักรยานยนต์อุ้มร่างน้องมาส่ง จึงรีบนำขึ้นรถโดยเพื่อนที่นำตัวมาส่งบอกว่าน้องตายแล้ว ตนจึงจับชีพจรยังเต้นอยู่ ก็รีบตะบึ่งนำตัวส่งรักษาที่ รพ.ปลาปาก ระหว่างนำส่งหญิงรายนี้นอนนิ่งไม่ได้สติแต่ชีพจรยังมี
 

ด้าน พ.ต.ท.โดมฤทธิ์ ศรีพิณเพราะ สวญ.สภ.กุตาไก้ เปิดเผยว่าหลังได้รับแจ้งได้นำตัวเยาวชนชายอายุ 15-25 ปี จำนวน 6 คนมาสอบปากคำ รับสารภาพแล้ว 1 รายเป็นหัวโจกอายุ 20 ปี ที่เหลืออยู่ระหว่างสอบปากคำ ส่วนจะโดนมอมยาแล้วรุมโทรมหรือไม่อยู่ระหว่างสอบปากคำ ซึ่งจะขยายผลสอบออกไปว่าจะมีใครเกี่ยวข้องแค่ไหน คงต้องใช้เวลาสอบสักพักหนึ่ง เนื่องจากผู้ต้องสงสัยส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ต้องสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพ ที่สำคัญถ้าน้องแพรวาฟื้นคืนสติ ก็คงจะได้ความกระจ่างเร็วขึ้น