วันพฤหัสบดี ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:29 น.

อาชญากรรม

ตำรวจภาค 5 แถลงจับแก๊งลักลอบค้าอาวุธสงครามส่งแนวชายแดน

วันพฤหัสบดี ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2568, 16.41 น.

กรณีเมื่อวันที่ 22 เม.ย.68 สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จว.เชียงใหม่ ตั้งจุดตรวจแยกเกษตรอินทรีย์ เลียบคลองชลประทาน อ.เมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่ สกัดจับผู้ต้องหา 2 ราย รับจ้างขนอาวุธปืนสงคราม M4A1 จำนวน 10 กระบอก, M79 จำนวน 14 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก เตรียมนำส่งชายแดนพื้นที่ จว.แม่ฮ่องสอน และต่อมา ขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการค้าอาวุธสงครามอีก 2 ราย ได้ในท้องที่ ต.ป่าตัน อ.เมืองเชียงใหม่ และ จว.กำแพงเพชร

ข่าวคืบหน้าวันที่ 25 เมย 68 พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช ภาค 5 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, พ.ต.อ.มนัส อินทร์เถื่อน ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ร่วมแถลงผลการจับกุม รวบแก๊งลอบขนอาวุธสงคราม ส่งต่างประเทศผู้ต้องหาและของกลาง ณ ห้องประชุม สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์  ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่

พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช ภาค 5 ได้เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที้ตำรวจ สภ ภูพิงค์ ฯ สามารถจับกุมตัว นายไกรเพชร  อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายกีรติภพ อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ,นายสมศักดิ์ อายุ 31 ปีชาวจังหวัดเชียงใหม่ นายเตชพล  อายุ 35 ปี ขาวกรุงเทพ พร้อมของกลางอาวุธปืนเล็กยาวทรง AR ขนาด 5.56 มม. จำนวน 10 กระบอก ซองกระสุนขนาด 5.56 มม. จำนวน 10 ซอง เครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด 40 มม. จำนวน 14 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก เงินสด 2 ล้านบาท เสื้อเกราะกันกระสุน 1 เครื่อง วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง  นำตัวทั้งหมดดำเนินคดีข้อหา" ร่วมกันมียุทธภัณฑ์ (อาวุธปืนและเครื่องยิงลูกระเบิด) โดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโลยไม่ได้รับอนุญาต และโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ร่วมกันค้า หรือจำหน่ายอาวุธปืนฯ นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 55 "

การจับกุมครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านสกัดสิ่งของผิดกฏหมายที่บริเวณข่วงเกษตรอินทรีย์ ถนนคันคลองชลประทาน (ขาออก) ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้เรียกตรวจรถยนต์กระบะต้องสงสัย ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ทะเบียน 3ฒย 7159 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีนายไกรเพขร และนายกีรติภพ เป็นผู้ขับขี่และโดยสารมาด้วย

จากการตรวจค้น พบกล่องขนาดใหญ่ซุกซ่อนอยู่ท้ายกระบะ ภายในบรรจุอาวุธสงครามจำนวนมากจึงจับกุมตัวทั้งสองไว้และระหว่างนั้นมีคนติดต่อเข้ามาเป็นผู้ร่วมขบวนการจึงติดตามไปจับอีกสองคนไว้พร้อมเงินสด 2 ล้านบาท

พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 เปิดเผยอีกว่าจาการสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าได้รับจ้างขนอาวุธจากบริเวณด้านหลังห้างโลตัส สาขาคำเที่ยง ตำบลช้างเผือก เพื่อนำไปส่งให้กับกลุ่มชนกลุ่มน้อย KNU ที่บ้านแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยได้รับค่าจ้างครั้งละ 8,000 - 9,000 บาท และเคยรับจ้างมาแล้ว 3 ครั้ง โดยมีคนจัดหาอาวุธทั้งตามแถบขายแดนและกทม. เป็นอาวุธปืนใหม่ทั้งหมด ซึ่งตอนนี้เรากำลังเร่งขยายผลแหล่งที่มารวมถึงกลุ่มผู้ร่วมขบวนการทั้หมดมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.

ผู้สื่อข่าวถามกรณีสติ๊กเกอร์ หน่วยอรินทราช ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเครื่องหมายสัณญาลักษณ์เครื่องแบบต่า งๆ ของตำรวจ รวมทั้งเสื้อผ้าประจำหน่วยตำรวจต่าง ๆ ที่ค้นพบในรถของผู้ต้องหา ทาง ผบช ภาค 5 ได้เผยว่า เครื่องหมาย รวมทั้งสติ๊กเกอร์ ของหน่วยงานตำรวจที่ผู้ต้องหานำมาติดตามเสื้อผ้าหน่วยตำรวจต่าง ๆ นั้น พวกสติ๊กเกอร์สัณญาลักษณ์เครื่องหมายพวกนี้หาซื้อได้แถวหลังกระทรวง มีขายระบาด แม้กระทั่งเสื้อเกราะ ก็ยังมี พวกคนร้ายพวกนี้จึงไปหาซื้อมาเพื่อต้องการอำพรางปลอมตัวตบตาเจ้าหน้าที่ และแอบอ้าง ส่วนที่ว่ามีบุคคลมีสีมีส่วนพัวพันหรือไม่นั้นจากการสอบสวนยังไม่ปรากฏในตอนนี้ อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะได้ขอหมายจับกุมผู้ต้องหาเพื่มอีก 2 รายที่ยังคงหลบหนีเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีกันต่อไป

สรุปคือพวกกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้จะรับจ้างหาอาวุธสงครามโดยรับจ้างจากชนกลุ่มไทใหญ่ เพื่อหาอาวุธสงครามแล้วส่งให้กลุ่มไทใหญ่นำส่งขายต่อให้กับกลุ่ม กะเหรี่ยงฯ เพื่อไปสู้รบกับทางทหารของเพื่อนบ้าน โดยอาศัยเชียงใหม่เป็นแห่งสถานที่ประสานเจรจา และจุดพักเพื่อนำส่งไปจำหน่ายให้กับชนกลุ่มน้อยชายแดน
 

หน้าแรก » อาชญากรรม