จากกรณีมีประชาชนที่ใช้ชื่อเฟสบุ๊ค ได้โพสต์ข้อความผ่านโลกออนไลน์ โดยมีใจความว่า พอจะมีหน่วยไหนช่วยได้ไหมค่ะ คนในรูปนี้มันตีแม่บังเกิดเกล้า ทั้งตีทั้งบีบคอ และไม่ใช่แค่รอบเดียว มันทำมาหลายรอบนับไม่ถ้วนค่ะ #วันนี้มันก็ตีแตะบีบคออีก ช่วยๆหน่อยนะค่ะ  #บุคคลอันพาล พิกัดบ้านผือใหม่ ม.1  ขอบคุณนะที่นี้ด้วยค่ะ พร้อมโพสต์ภาพประกอบเหตุการณ์

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ บ้านผือใหม่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ  พบกับ นางสาวอนุวรรณ ยี่สุ่นหอม อายุ 21 ปี ผู้โพสต์เฟสบุ๊ค ซึ่งเป็นลูกสาวของ  นางทองศรี ยี่สุ่นหอม อายุ 60 ปี ผู้ถูกทำร้ายร่างกาย  ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายทรงพล  ยี่สุ่นหอม อายุ 32 ปี ลูกชายแท้ๆของนางทองศรี 

เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2568 บริเวณถนนภายในหมู่บ้านผือใหญ่ นางทองศรี กำลังจูง อีดอน ควายเพศเมีย กลับเข้าคอก หลังทราบจากชาวบ้านว่า นายทรงพลได้แอบปล่อยความออกจากคอก  ซึ่งขณะที่กำลังจูงควายกลับ นายทรงพล ลูกชาย ได้ขับจักรยานยนต์มาด้วยความเร็ว ก่อนจะจอดประกบข้างนางทองศรี หลังจากนั้นได้กระชากคอเสื้อจนล้มลง ก่อนจะชกและเตะ อีกหลายครั้ง จนเกิดบาดแผลถลอกและฟกช้ำหลายแห่ง

นางทองศรี ผู้ถูกทำร้ายร่างกาย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ ( 27 เมษายน 2568 ) ขณะที่ตนกำลังจูงอีดอน (ควาย) กลับเข้าคอก นายทรงพล ได้ขับจักรยานยนต์มาประกบจอดข้างๆตนและได้กระชากคอเสื้อตนล้มลง หลังจากนั้นได้เตะและต่อยตนหลายครั้ง พร้อมกับพูดว่า มึงกับกู ไม่ต้องมาหากัน ตนจึงตอบสวนกลับไปว่า กูไม่ไปหามึงหรอก ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับตนบ่อยครั้ง ถ้าไม่สามารถทำกับตนได้ ก็จะไปหาเรื่องทำร้ายร่างกายคนอื่น ไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อแท้ๆของนายทรงพล ซึ่งส่วนใหญ่ นายทรงพลจะมีพฤติกรรมนี้ เวลาที่เสพยาบ้า และดื่มสุราขาว จะเกิดอารมณ์โมโหและมาทำร้ายตน ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้น สร้างความเสียใจให้กับตนเป็นอย่างมาก

นางสาวอนุวรรณ อายุ 21 ปี ผู้โพสต์เฟสบุ๊ค ซึ่งเป็นลูกสาวของ นางทองศรี ผู้ถูกทำร้ายร่างกาย เปิดเผยว่า ตนได้แจ้งไปทางตำรวจชุมชน เพื่อให้ดำเนินการจัดการในเรื่องนี้ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุแต่ละครั้ง ทางตำรวจชุมชนก็ได้เข้าไปตักเตือน นายทรงพลเฉยๆ แต่ไม่มีการดำเนินคดีทางกฏหมายแต่อย่างใด  เมื่อตนได้สอบถามว่า มีการไปแจ้งความที่สภ.กันทรลักษ์หรือไม่?  กลับได้รับคำตอบว่า ไม่ต้องก็ได้ เดี๋ยวจะดำเนินการจัดการเอง ตนและแม่จึงตัดสินไปเข้าไปแจ้งความที่ สภ.กันทรลักษ์  แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆเช่นกัน และเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว  ถ้านายทรงพล ไม่สามารถทำร้ายแม่ได้ ก็จะระรานไปอาละวาดและหาเรื่อทำร้ายคนอื่น แม้กระทังพ่อก็ถูกทำร้ายร่างกาย แต่ก็ไม่บ่อยเท่ากับแม่ เพราะพ่อไม่ค่อยอยู่บ้านเท่าไร ส่วนมากจะเป็นแม่ที่ถูกกระทำ  ซึ่งนายทรงพลเป็นพี่ชายแท้ๆของตน และเท่าที่จำความได้ ตนก็ต้องทนเห็นพฤติกรรมพี่ชายของตนที่เสพยา เมาสุรา อาละวาดและทำร้าย พ่อ แม่ มานานกว่า 10 ปี  ถึงแม้สมัยตอนไป ทำงาน ที่กรุงเทพ นายทรงพล จะเคยถูกจับในเรื่อง ของยาเสพติด และทำร้ายร่างกาย ในแต่ละครั้งที่เกิดเหตุ แม่ก็จะไปประกันตัวให้ เพราะสงสาร แต่นายทรงพล กลับมากระทำเช่นนี้

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  นายทรงพลนั้นได้วางแผนโดยแอบปล่อย ควายออกจากคอก  เพื่อจะให้ล่อให้แม่มาเอาควายเข้าออก และดักทำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนรับไม่ได้ ตนจึงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการจับกุมตัวนายทรงพลไป ดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด เพราะสงสาร แม่เป็นอย่างมาก