วันที่ 2 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี เพจ Social Hunter 2022 โพสต์รูปภาพและข้อความว่า วัยรุ่นชายไปเที่ยวสถานบันเทิงพร้อมกับเพื่อน ถูกวัยรุ่นอีกกลุ่มเข้ามาหาเรื่อง ภายในห้องน้ำหาว่าไปมองหน้า เข้ามารุมทำร้ายใช้มีดแทงคอและลำตัว ขณะเกิดเหตุการ์ดร้าน ที่รู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ได้ช่วยกัน จับล็อกตัวกลุ่มผู้บาดเจ็บเอาไว้ แล้วปล่อยให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุ.ม.ตื้บอยู่ฝ่ายเดียว ล่าสุดทางร้านได้ไล่การ์ดคนนี้ออกไปแล้ว และตำรวจทราบตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว แต่ญาติไม่สามารถผิดการ์ดร้าน คนที่จับล็อกตัวได้ เพราะทางร้านไม่ยอมให้ภาพวงจรปิดมา อ้างว่ากล้องที่ร้านเสียพอดี อุดรธานี ล่าสุด เจ้าของร้านได้ยอมส่งภาพวงจรปิดในร้านให้นักข่าว บอกว่าเป็นเหตุกาณ์ช่วงเกิดเหตุ โดยในภาพจะเห็นชายสองคนคือผู้บาดเจ็บกับเพื่อนเดินเข้าห้องน้ำ จากนั้นก็ผู้หญิงที่อยู่หน้าห้องน้ำก็ชี้เหมือนบอกอะไรการ์ด จากนั้นก็ดึงแขนการ์ดเข้าไป ไม่นานก็เรียกกลุ่มการ์ดของผับเข้าไปตามหลายคน เห็นมีภาพชุลมุนเกิดขึ้น และก็มีเพื่อนของคนเจ็บเข้าไปแล้วดึงคนเจ็บออกมา ซึ่งสาเหตุจากดูในภาพยังไม่แน่ชัดว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ผู้หญิงในภาพน่าจะมีคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นได้ แต่ตอนนี้ยังหาตัวผู้หญิงคนนี้ไม่เจอ

ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบผู้บาดเจ็บที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน ต.บ้านชัย อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เพื่อสอบถามเรื่องราวเหตุการณ์ โดยพบกับนายปรเมศร์ คำสีแก้ว หรือโด่ง อายุ 21 ปี ยังผู้อาการบาดเจ็บและตกใจกับเหตุที่เกิดขึ้นพร้อมโชว์บาดแผลให้นักข่าวได้ดู โดยมีบาดแผลบริเวณหน้าท้อง 1 แห่ง  มีเหล็กปลายแหลมหักคาท้อง หมอได้ผ่าตัด นอกจากนี้ยังมีรอยแผลบริเวณต้นคอด้านซ้ายและหัวเข่าคล้ายถูกปลายของมีคม

นายโด่ง อายุ 21 ปี เล่าให้ฟังว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุประมาณจะตี 1 วันที่ 30 เม.ย.68 ที่ผ่านมา ตนเองกับกลุ่มเพื่อนอีก 6-7 คน เข้าไปเที่ยวและเลี้ยงส่งเพื่อนไปทหาร ที่ผับแห่งหนึ่งในตัวอ.บ้านดุง (ผับจันทร์ฉาย) พอเข้าไปในร้านสั่งเครื่องดื่มมา เครื่องดื่มยังไม่มาโต๊ะแต่ตนปวดฉี่จึงชวนรุ่นพี่ไปเข้าห้องน้ำฉี่เสร็จยืนสูบบุหรี่และพูดคุยกับรุ่นพี่ สักพักเห็นคู่กรณีเดินมาและพูดว่า นายคุยกับเราเหรอ ตอนนั้นก็ไม่มีใครตอบกลับ เนื่องจากคนที่มาคุยด้วยนั้นน่ากลัวและไม่เคยรู้จักเขา แต่เขาก็ถามย้ำอีกว่า นายคุยกับเราเหรอ ตนก็ตอบไปว่าไม่ได้คุยคู่กรณีก็กลับบอกอีกว่าให้ออกไปจากนี้ตอนนี้กำลังหลอน ได้ยินแบบนั้นก็ตกใจชวนรุ่นพี่กลับไปในร้าน ดื่มกันสักพักปวดฉี่อีกรอบ ก็เดินมาเข้าห้องน้ำ ครั้งนี้ไปคนเดียวเปิดเข้าไปก็เจอคู่กรณียืนอยู่ในห้องน้ำ ไม่ทันได้ฉี่คู่กรณีคนที่บอกว่า กูวว์กำลังหลอนก็กระหน่ำตีล็อคคอต่อย สักพักมีการ์ดของร้านวิ่งเข้ามาล็อคคอล็อคแขนลากออกไปหน้าร้าน ออกมาหน้าร้านก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองถูกแทง แล้วก็เพื่อนรุ่นพี่ก็พาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษา

โดยได้รับบาดเจ็บที่บริเวณซี่โครงด้านขวาคล้ายของเหล็กแหลมคล้ายอาวุธมีดปลายแหลมแทง ปลายหักในท้อง หมอได้ทำการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ต้นคอด้านซ้ายมีบาดแผลเล็กน้อย และบริเวณหัวเข่าด้านซ้ายก็มีบาดแผล ตอนนี้รู้สึกกังวลความปลอดภัยในชีวิตเนื่องจากตนไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน ที่สำคัญคู่กรณีได้ยินข่าวว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสนิทสนมกันยิ่งทำให้รู้สึกกังวลมากขึ้น เพราะหลังเกิดเหตุทางร้านก็ไม่มีการแสดงความรับผิดชอบอะไร โดยวันพรุ่งนี้ คือวันเสาร์ที่ 3 พ.ค.68 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนัดไปสอบปากคำและไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีอีกครั้ง

น.ส.กุ้ง  อายุ 24 ปี พี่สาวนายโด่ง บอกว่า วันนั้นได้ยินข่าวน้องชายถูกทำร้ายร่างกายก็ตกใจ รีบไปดูที่รพ.ก็รู้ขาวน้องถูกทำร้ายร่างกาย โดยถูกมีดแทงที่หน้าท้อง และปลายมีดแหลมหักในท้อง ต่อมามีตร.ชุดสืบสวนแนะนำให้ไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดี จากนั้นก็โพสต์เตือนระวังนักท่องเที่ยวมาเที่ยวร้านนี้ หนูอยากรู้ว่า ร้านจะรับผิดชอบอย่างไร ทำไมให้คนมีอาวุธเข้าไปในร้านได้ ทำไมการ์ดไม่ห้ามคนเมาที่ทำร้าย 4-5 คน แล้วทำไมมาดึงน้องชายหนูออกจากร้าน ทางร้านก็บอกว่าต่างคนต่างเมา เท่าที่รู้ทราบว่า การ์ดและกลุ่มคนที่ทำร้ายน้องชายรู้จักกันและเพิ่งออกจากคุกมาไม่นาน ตอนนี้จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และไม่อยากให้ไปเกิดกับคนอื่น ทราบอีกว่า วันนั้นกลุ่มคนนี้ทำร้ายนักท่องเที่ยวอีก 1 คนแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บเยอะ หนูอยากจะถามว่า มาทำร้ายน้องชายหนูทำไม เราไม่รู้จักกัน เขาก็ยอมรับว่า เขาเมา แล้วเมาต้องมาทำร้ายกันเหรอ 4 คนรุม 1 แบบนี้เกินไป ร้านมีการ์ดแล้วนักท่องเที่ยวทำไมเอาอาวุธเข้าไปด้วยได้ หนูจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แต่พวกหนูเป็นคนธรรมดา อยากให้ตร.ดำเนินคดีและให้ความเป็นธรรมพวกหนูด้วย

นางสุข คำสีแก้ว อายุ 72 ปี ยายของนายโก่ง บอกว่า ตกใจและเสียใจมากที่หลานชายถูกทำร้าย แต่เคราะห์ยังดีเขายังไม่ถึงคราวตาย เพราะยังมีบุญเก่าอยู่ เชื่อว่าหลานชายมีบุญเก่าเพราะเขาบวชเรียนมา ไปเที่ยวครั้งแรกถูกทำร้ายโดนแทงที่ท้อง ก็ไม่ตาย และตนเองเชื่อบุญบารมีและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องรักษาหลานชาย หักมีดให้ก่อน หากมีดไม่หักคงแทงถึงปอดหลานชายอาจจะตายก็ได้ ต่อจากนี้ไปคงไม่กล้าให้หลานชายไปเที่ยวที่ไหนอีกแล้ว และอยากจะขอความเป็นธรรมจากตำรวจ ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุอย่างตรงไปตรงมาด้วย เพราะปกติหลานชายเป็นคนดีในสายตาของยาย

ทางด้านพ.ต.อ.พงศ์พันธ์ นาขวา ผกก.สภ.บ้านดุง บอกว่า ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วเรื่องนี้น่าจะเป็นการทะเลาะกันในร้านโดยตำรวจได้ตัวคนก่อเหตุแล้วเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่าก่อเหตุทำร้ายจริง ส่วนรายละเอียดติดได้กับร้อยเวรเจ้าของคดี ขณะที่ร้อยเวรเจ้าของคดีนักข่าวพยายามโทรแต่ไม่รับสาย แต่ทราบว่า ทั้งสองฝ่าย ตร.นัดให้ไปไกล่เกลี่ยเจรจากันในวันพรุ่งนี้คือวันเสาร์ที่ 3 พ.ค.68 ที่สภ.บ้านดุง

 ขณะเดียวกันนายเหน่ง เจ้าของผับดังกล่าว เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นวันเกิดเหตุผมไม่ได้อยู่ในร้าน แต่คนดูแลร้านแจ้งว่า มีเหตุทะเลาะวิวาท ทราบเบื้องต้นว่านักท่องเที่ยวทะเลาะกันเอง ยืนยันผมไม่ได้ไล่การ์ดออกตามที่เป็นข่าว เพราะการ์ดเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ลากตัวนักท่องเที่ยวออกนอกร้านหรือรุมทำร้ายนักท่องเที่ยววงจรปิดดูได้เลย ทางร้านให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฯ ส่วนคนที่รุมทำร้ายไม่ได้รู้จักกับการ์ดเขาเป็นนักท่องเที่ยว ผมยืนยันไม่ได้ไล่ออกการ์ดออกเพราะเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ส่วนที่น้องคนเจ็บบอกว่า การ์ดลากออกนอกร้าน ไม่ใช่แต่อย่างใด และเท่าที่ผมฟังมา น้องคนเจ็บกับคนก่อเหตุอาจจะเดินชนกันในห้องน้ำก็เลยมีเรื่องกันก็เท่านั้น //////////////