เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจาก นางทองผัน อายุ 57 ปี ว่ามีเหตุมีคนคลุ้มคลั่ง ใช้มีดจี้คอชาวบ้าน ขณะนี้ชาวบ้านได้เข้าช่วยเหลือและจับผู้ก่อเหตุไว้ได้แล้ว เหตุเกิดบริเวณร้านรับซื้อของเก่า บริเวณซอยพูนสิน ถนนสาย 9 กิโล หมู่ 9 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจผาแดง เข้าตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุภายในร้านรับซื้อของเก่า พบกับชาวบ้านช่วยกันควบคุมตัว ใช้เชือกมัดมือมัดข้อเท้า นายกิตติพงษ์ อายุ 32 ปี ที่เป็นลูกชายของนางทองผัน (ผู้แจ้ง) ที่มีอาการคุ้มคลั่ง พูดจาไม่รู้เรื่อง เอาไว้ได้ หลังจากก่อเหตุใช้กรรไกรจี้คอเด็กชายอายุประมาณ 10 ปี ที่อาศัยอยู่ภายในร้านรับซื้อของเก่าดังกล่าว แต่โชคดีที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นเห็นเข้า ได้เข้าช่วยเหลือเด็กไว้ได้ โดยนายกิตติพงษ์ได้หลบหนีออกจากร้านรับซื้อของเก่าไป แล้วหลังจากนั้นในช่วงเย็น นายกิติพงษ์ก็แอบเข้ามาที่ร้านรับซื้อของเก่าอีกครั้ง ในระหว่างที่ นายแหลม (นามสมมุติ) กำลังหันหลังทำงานอยู่นั้น นายกิตติพงษ์ได้เดินเข้ามาด้านหลัง แล้วใช้มีดพร้าจี้ไปที่คอแล้วใช้มีดล็อกคอจากด้านหลัง ทำให้นายแหลมตกใจและร้องให้คนแถวนั้นช่วยเหลือ จนลูกชายของนายเดี่ยวได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจึงวิ่งออกมาช่วย พร้อมกับชาวบ้าน และแย่งมีด ช่วยเหลือนายแหลมออกมาได้สำเร็จ ก่อนจะควบคุมตัวนายกิตติพงษ์ไว้ได้ และรีบโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไปดำเนินคดี

โดยนางทองผัน ผู้แจ้งและเป็นแม่ของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ครั้งแรกตนเองเห็นนายกิตติพงษ์ลูกชายตนเองพาเด็กอายุประมาณ 10 ขวบมา จึงสอบถามว่าวิ่งหนีอะไรมา แต่ตนเองคิดว่าลูกชายตนเองวิ่งหนีตำรวจมา แล้วจับเอากรรไกรจี้คอเด็กชายวัยประมาณ 10 ขวบ ซึ่งเป็นหลานของผู้ก่อเหตุมา ตนเองจึงแย่งเอากรรไกรออกมาจากคอและแย่งหลานออกมาได้สำเร็จ 

หลังจากนั้นนายกิตติพงษ์ก็วิ่งหนีออกไปจากที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นไม่นานนายกิตติพงษ์ก็หวนกลับมาอีกรอบ ซึ่งขณะนั้นนายแหลม (นามสมมุติ) น้าชายของนายกิตติพงษ์กำลังหันหลังซ่อมรถอยู่ นายกิตติพงษ์ก็เอามีดพร้ามาจี้ไปที่คอนายแหลม แต่นายแหลมก็พยายามใช้มือรั้งมีดไว้ ไม่ให้มีดบาดคอ แล้วก็เรียกให้ญาติพี่น้องเข้ามาช่วยเหลือ 

ซึ่งนายกิตติพงษ์ก่อเหตุลักษณะนี้มาหลายครั้งแล้ว จนญาติพี่น้องสุดทน ต้องระแวง ระวังตัวอยู่ตลอด ก็อยากให้ตำรวจจับตัวไป อย่าปล่อยตัวออกมาอีกเลย ซึ่งก่อนหน้านี้ นายกิตติพงษ์เคยก่อเหตุ เผาบ้าน เผารถ และรื้อรถจักรยานยนต์เอาอะไหล่ไปขายจนหมด มาตอนนี้หลอนจะมาฆ่าเด็ก ฆ่าคนอีก ก็ไม่ไหวแล้ว เขามีประวัติเสพยา ติดยา จนหลอน ตอนนี้อยากให้ตำรวจจับไปขังคุกยาว ๆ ไปเลย ไม่ต้องออกมา เพราะกลัวคนดีดี จะมาตายเพราะคนแบบนี้ ถึงเป็นลูกก็ช่าง เพราะทนพฤตติกรรมไม่ไหวแล้ว เคยหนีไปต่างจังหวัด นายกิตติพงษ์ก็ตามไป หนีกลับมาอยู่ที่นี่ก็ตามกลับมารังควานอยู่ตลอด

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายกิตติพงษ์ไปตรวจปัสสาวะ และให้ผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.ศรีราชา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจปัสสาวะและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป