วันที่ 18 ส.ค. 68 เวลา 09.00 น. ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายบุกลักทรัพย์ภายในสำนักงานศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน มูลนิธิศาลเจ้าปู่ย่า ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี  โดยภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพผู้ก่อเหตุได้อย่างชัดเจน หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.กนราศักดิ์ นนทบุตร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วยตร.ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที จากการดูภาพวงจรปิดพบว่าคนร้ายเป็นชาย สวมเสื้อกีฬากางเกงขาสั้น เข้ามาทางประตูสำนักงานเวลา 08.10 น. ก่อนเดินตรงไปที่โต๊ะพนักงาน รื้อค้นลิ้นชักแล้วขโมยเงินสดประมาณ 3,000–4,000 บาทแล้วหลบหนีออกไป

น.ส.นิศาชล อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่ประจำ สนง.ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน บอกว่า เช้าวันนี้เป็นวันจันทร์เดินทางมาทำงานเปิดออฟฟิศไว้แล้วก็ออกไปข้างนอก เมื่อกลับเข้ามาพบว่าลิ้นชักถูกเปิด เงินสดที่เก็บไว้ในกล่องพลาสติค ประมาณ 3,900 บาทที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหายไป จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดและพบเหตุการณ์ จึงรีบแจ้งตำรวจทันที โดยเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่เตรียมไว้สำหรับใช้จ่ายและแลกเปลี่ยนในงานกิจกรรม

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้เร่งติดตามจนสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ในเวลาต่อมา ทราบชื่อต่อมาว่า นายชัยณรงค์ หรือ กอล์ฟ อายุ 39 ปี สาวสอง โดยถูกตร.ชุดสืบสวนตามจับกุมได้ที่บ้านพักในพื้นที่ชุมชนบ้านม่วง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ตำรวจนำตัวไปทำชี้จุดที่ลงมือก่อเหตุ ขณะที่พาตัวนายชัยณรงค์ หรือ กอล์ฟ ยังให้การปฏิเสธบอกกับตร.ว่า ฉันไม่ได้ขโมยเงินค่า!!!แต่ยอมรับว่าเข้ามาเอาทินเนอร์จากรุ่นพี่ในศาลเจ้าปู่ย่าจริง ตร.จึงเปิดภาพวงจรปิดให้เธอดู สาวกอล์ฟยังเถียงคอเป็นเอ็นบอกว่า ไม่ได้เข้าไปขโมยเงินนะค่ะ แต่เข้าไปในสำนักงานจริงๆ นั่นแหละ และภาพในวงจรปิดที่ตำรวจถือในมือเป็นภาพ AI เหมือนดิฉัน คนนั้นเขาชื่อน้องเอ ที่รู้จักกันในเรือนจำ

สุดท้ายสาวกอล์ฟคอตกหน้าเศร้า ยอมรับว่าเขาไปขโมยเงินในสำนักงานฯ จริงๆ  ยังแถได้อีกเงินไม่ได้เอาไป ที่หยิบไปนั้นเป็นกระดาษ และกระดาษเอาไปโยนทิ้งแล้ว ตำรวจจึงควบคุมตัวสอบสวนต่อที่ สภ.เมืองอุดรธานีเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และในขณะที่คุมตัวนายกอล์ฟสาวสองขึ้นรถเพื่อไปโรงพัก ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ก่อนหน้านี้กอล์ฟทำงานอะไร กอล์ฟตอบอย่างมั่นใจว่าขายบริการให้ชาวกัมพูชาและคนลาวที่พัทยาค่ะ มีเพื่อนคนเขมรอยู่ เขาสอนให้อึ๊บกัน แต่การขโมยเพื่อนคนไทยสอนให้ค่าพี่นักข่าว