วันศุกร์ ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2568 01:38 น.

อาชญากรรม

รวบทันควัน! หนุ่มทาสยาบุกวัดยกตู้บริจาค "ศาลเจ้าแม่ตะเคียน" เอาเงินซื้อยาบ้าเสพ

วันอังคาร ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 19.28 น.

วันที่ 19 สิงหาคม 2568 เวลา 08.00 น. พ.ต.ต.ศักดา  ต้นจันทน์ สวป.สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้งจากนายวิศิษฐ์ เหมเมือง ผู้ใหญ่บ้านเหล่าภูมี หมู่ 13 ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม ว่า เมื่อคืนวันที่ 18 สิงหาคม เวลาประมาณ 23.00 น. มีคนร้ายลักลอบเข้าไปในวัดศรีชมชื่น เพื่อก่อเหตุลักทรัพย์เป็นตู้บริจาคเงิน ที่วางอยู่ภายในศาลเจ้าแม่ตะเคียน โดยชาวบ้านให้ความเคารพนับถือและสักการะบูชาอยู่เป็นประจำ และมีชาวบ้านที่อยู่ติดกับวัด เห็นชายคนหนึ่งได้ปีนกำแพงวัดเข้าไป ก่อนจะออกมาพร้อมถุงสีดำที่ห่อหุ้มกล่องลักษณะเหมือนตู้บริจาคที่เคยเห็นอยู่ภายในวัด ซึ่งจากการสังเกต ตำหนิ รูปพรรณ การแต่งกาย  และใบหน้าของชายคนดังกล่าว คาดว่าเป็นนายกะลึมคนจรจัดที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน 

หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พบว่าศาลเจ้าแม่ตะเคียนสร้างอยู่ติดกำแพงวัดด้านทิศใต้ ไม่ห่างจากศาลาการเปรียญมากนัก โดยพระอาจารย์เพ็ง จิตสาโร อายุ 53 ปี พรรษาที่ 18 เจ้าอาวาสเปิดเผยว่า ตู้บริจาคตั้งไว้เพื่อให้ญาติโยมที่มากราบไหว้ขอพร ใส่เงินตามกำลังศรัทธา และไม่ได้เปิดมานานหลายปี ไม่รู้ว่าในตู้มีเงินจำนวนเท่าไหร่ 

ระหว่างตรวจที่เกิดเหตุ มีชาวบ้านพบเห็นนายกะลึมผู้ต้องสงสัย เดินอยู่ในหมู่บ้าน ในมือขวากำธนบัตรใบพัน และพูดคนเดียวเหมือนคนเสียสติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปควบคุมตัว ทราบต่อมานายกะลึมชื่อนามสกุลจริง  ว่า  นายณัฐภัทร อายุ 28 ปี  เขตเทศบาลเมืองนครพนม และจากการสังเกตอาการของนายกะลึม  มีท่าทางกระวนกระวาย  พูดจาวกไปวนมา ตัวสั่น ลุกลี้ลุกลน เหมือนคนเสพยาเสพติด จึงสอบถามนายกะลึมยอมรับว่าได้เพิ่งเสพยาบ้ามา 4 เม็ด ขณะที่มือขวากำแบงค์พันไว้แน่น เมื่อแกะออกมาเป็นแบงค์พันจำนวน 3 ฉบับ ส่วนในกระเป๋าเสื้อมีเหรียญบาท เหรียญ 5 เหรียญ 10 นับได้เกือบ 500 บาท จากนั้นได้นำตัวไปสอบสวนที่โรงพัก

นายกะลึมซึ่งอยู่ในอาการหลอนยา แต่พอจับใจความคำพูดได้ว่าเป็นคนร้ายเข้าไปขโมยตู้บริจาคในวัดจริง โดยยัดใส่ถุงดำแบกมาทุบกุญแจที่ล็อคไว้ ตรงหน้าบ้านหลังหนึ่ง ก่อนจะเอาตู้เปล่าไปโยนทิ้งในป่าข้างทาง ส่วนในตู้มีแบงค์ 20 บาท และเหรียญเงินชนิดต่างๆ ตอนเช้าก็เอาไปแลกกับร้านขายของชำแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน นับได้เป็นเงินประมาณ 5 พันบาทเศษ แต่เจ้าของร้านขายของชำ ยอมรับแลกให้เป็นแบงค์พันแค่ 3,500 บาทเท่านั้น จากนั้นก็ไปหาซื้อยาบ้ามาเสพ และเดินออกมากลางหมู่บ้าน กระทั่งถูกตำรวจมาจับดังกล่าว 

นอกจากนี้ นายวิศิษฐ์ เหมเมือง ผู้ใหญ่บ้านเหล่าภูมี หมู่ 13 ต.หนองญาติ นายกะลึมไม่มีอาชีพอะไร อีกทั้งยังมีพฤติกรรมชอบลักเล็กขโมยน้อย เชื่อว่าสายไฟในป่าช้าที่ถูกคนร้ายเอาไป น่าจะเป็นนายกะลึมคนนี้ แต่ไม่มีหลักฐานมัดตัว กระทั่งครั้งนี้มีทั้งพยานเห็น และหลักฐานชัดเจน ชาวบ้านคงไม่ต้องนอนหวาดระแวงว่าจะมีขโมยแอบมาลักสิ่งของอีกแล้ว 

ระหว่างที่อยู่ในห้องสอบสวนฝ่ายปราบปราม สภ.เมืองนครพนม นายกะลึมผู้ต้องหา ยังมีอาการหลอนยา พูดฟังแทบไม่ได้ศัพท์ และไม่อยู่เฉย ซึ่งผลตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดพบเป็นฉี่สีม่วง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหามีความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร , เสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม  เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หน้าแรก » อาชญากรรม