วันเสาร์ ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2568 18:03 น.

อาชญากรรม

มอบตัวแล้วพ่อเลี้ยงหื่นกาม อ้างเมาหนักจนขาดสติ แม่เหยื่อเล่าทั้งน้ำตาเห็นสภาพลูกให้อภัยไม่ได้

วันศุกร์ ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2568, 13.38 น.

วันที่ 19 กันยายน 2568 เวลา 09.00 น. นายไพฑูล ไชยสุระ ผู้ใหญ่บ้านดอนแดง หมู่ 9 ต.คำเตย อ.เมือง จ.นครพนม ได้นำตัวนายศักดา หรือจ่อย อายุ 48 ปี เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เนื่องจากพยายามล่วงละเมิดทางเพศน้องมาย (นามสมติ) อายุ 19 ปี ลูกเลี้ยงในห้องนอน ต.คำเตย อ.เมืองนครพนม โดยเหยื่อขัดขืนปกป้องพรหมจรรย์สุดฤทธิ์ ทำให้นายจ่อยโมโหใช้อาวุธมีดจ้วงแทงไม่ยั้ง ก่อนจะโดดหน้าต่างหลบหนีไปกับความมืด เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณตีสองของวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา

โดยนายจ่อยมาพร้อมกับผู้เป็นพ่อ อายุ 70 ปี และญาติพี่น้องกว่า 10 คน เพราะเกรงว่าจะถูกฝ่ายผู้เสียหายมาดักรอทำร้ายที่หน้าโรงพัก ซึ่งนายจ่อยสวมเสื้อยืด กางเกงยีนส์ ใส่หมวกแก๊ปปิดบังใบหน้า และร้องไห้ปาดน้ำตาพร้อมกล่าวขอโทษ เพราะวันนั้นเมาจนขาดสติ และไม่รู้ว่าทำอะไรลงไปบ้าง ในขณะที่นายไพฑูลผู้ใหญ่บ้านพยายามสะกิดแขนผู้ต้องหาตลอดเวลา จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองนครพนม ได้นำตัวไปสอบปากคำถึงสาเหตุ ที่ทำร้ายลูกเลี้ยงปางตายเช่นนี้

ขณะเดียวกัน นางอึ่ง (นามสมมติ) อายุ 46 ปี แม่ของน้องมาย และเป็นเมียของนายจ่อยผู้ต้องหา ได้เดินทางมาโรงพักเพื่อขอดูหน้าคนที่ทำร้ายลูกสาวตน ถ้าเห็นหน้าคำแรกที่จะถามคือ”ทำไปได้อย่างใด” เพราะน้องมายแม้จะเป็นลูกเลี้ยง แต่ก็ห่วงใยผู้เป็นพ่อเลี้ยงคนนี้เสมอ มีอะไรอร่อยๆก็เก็บไว้ให้เขากิน เจ็บไข้ได้ป่วยก็พาไปหาหมอ ลูกเขาแท้ๆยังไม่เคยมาดูพ่อเลย ไม่คิดว่านายจ่อยจะกล้าทำกับลูกสาวตน ซึ่งนางอึ่งพูดไปก็มีน้ำตาไหลอาบแก้ม

ด้านพ่อของผู้ต้องหาก็เล่าว่า ไม่รู้จริงๆว่าลูกชายไปก่อเหตุรุนแรงขนาดนี้ เพราะอยู่กันคนละบ้าน พอทราบข่าวก็พยายามออกตามหา เพื่อให้มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งเมื่อคืน(18 กย.) ผู้ใหญ่บ้านโทรมาบอกว่านายจ่อยตอนนี้อยู่กับตนในสวนยางพารา พรุ่งนี้เช้าจะพาไปมอบตัวที่โรงพัก

ซึ่งต่อมาตอนเช้าของวันที่ 19 กันยายน 68 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านนายไพฑูล ไชยสุระ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านดอนแดง ต.คำเตย ทราบจากนายสายันห์ ตั้นปา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ยอมรับว่านายจ่อยอยู่ในสวนยางกับผู้ใหญ่บ้านจริง แต่ได้นัดหมายกับทางตำรวจว่าจะพาไปมอบตัวในเวลา 10 โมงเช้าวันนี้ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ไปดักรอก่อนถึงเวลานัด ปรากฏว่าตอนเวลา 9 โมงนายไพฑูลได้นำตัวนายจ่อยมาก่อนถึงเวลาดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าเกรงญาติทางผู้เสียหายจะพากันมารุมทำร้าย เลยต้องมาก่อนเวลานัด 1 ชั่วโมง

“นายจ่อยหลังก่อเหตุก็เดินไปตามทุ่งนาและป่า ทีแรกตั้งใจจะไปตายเอาดาบหน้า ตอนกลางคืนก็นอนในเถียงนาชาวบ้าน พอดีเดินมาเห็นวัดและหมู่บ้าน จึงเปลี่ยนใจติดต่อขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ดีกว่า” นายไพฑูล กล่าว. 

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบนโรงพัก พบว่านางอึ่งซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกสะใภ้พ่อนายจ่อย ยังไม่คลายความโกรธแค้น ร้องด่าและสาปแช่งให้ตายไม่ต้องผุดเกิดกัน และจะไม่ยอมให้อภัยทั้งสิ้น หากมีการขอยื่นประกันตัวในชั้นศาล ตนก็จะไปคัดค้านเพราะเกรงครอบครัวจะไม่ปลอดภัย

ส่วนอาการของน้องมาย ยังคงอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดในห้องไอซียู แม้จะพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ภาวะปอดที่โดนแทงทำให้มีลมอยู่ในปอด และตามร่างกายพันด้วยผ้าพันแผลราวมัมมี่ เพราะถูกนายจ่อยจ้วงแทงหลายแห่ง ทานข้าวได้แค่คำสองคำเพราะเจ็บแผลที่ลำคอ และพูดกับนางอึ่งว่าอยากตาย ซึ่งมารดาได้ปลอบโยนว่าลูกต้องอยู่เพื่อแม่ หากหายดีแล้วก็กลับไปเรียนหนังสือต่อ ทางวิทยาลัยพยาบาลก็รอการกลับมาขอลูกตลอดเวลา 

โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้ง 2 ข้อหา ว่า “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น และได้กระทำโดยใช้อาวุธ รวมทั้งพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” ขณะเจ้าหน้าที่นำตัวนายจ่อยเข้าห้องควบคุม ญาติน้องมายด่าตะโกนไล่หลัง ซึ่งนายจ่อยหันมาส่งยิ้มเหมือนจะเยาะเย้ย ยิ่งเพิ่มความโกรธแค้นหนักเข้าไปอีก
 

หน้าแรก » อาชญากรรม