วันพฤหัสบดี ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2568 04:52 น.

อาชญากรรม

ชายวัย 60 คลุ้มคลั่งถือมีดไล่ฟันตำรวจถูกยิงสกัดล้มหัวฟาดพื้นเสียชีวิต ลูกสาวโอดพ่อป่วยจิตยันเอาเรื่องถึงที่สุด

วันพุธ ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2568, 17.51 น.

วันที่ 24 กันยายน 2568 พ.ต.ต.พลาญชัย ชัยชนะ สารวัตรเวร สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่ซอย 3 หมู่ 3 ตำบลท่าราบ อำเภอเมืองราชบุรี และเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล บริเวณริมถนนเพชรเกษมสายเก่า หมู่ 2 ตำบลท่าราบ

ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือ นายสุรพล อายุ 60 ปี มีบาดแผลถูกยิงที่ต้นขาขวา ส้นเท้า และหน้าแข้ง รวมถึงศีรษะแตก คาดจากการล้มกระแทกพื้น เจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปชันสูตรยังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลราชบุรี

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ศูนย์วิทยุ 191 ราชบุรี รับแจ้งว่ามีชายคลุ้มคลั่งถือมีดอาละวาดภายในซอย เกรงว่าจะเป็นอันตรายกับชาวบ้าน ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองราชบุรี เข้าตรวจสอบ พบผู้ก่อเหตุถือมีดอยู่ในมือ จึงขอกำลังเสริม โดยมี ร.ต.อ.วรศักดิ์ คลองงาม รองสารวัตรป้องกันปราบปราม พร้อมกำลังเข้าร่วมระงับเหตุ แต่เมื่อผู้ตายเห็นเจ้าหน้าที่ กลับพยายามใช้มีดไล่ทำร้าย ร.ต.อ.วรศักดิ์ ต้องถอยร่นหนี ก่อนพลัดตกขอบถนนสูงกว่า 40 เซนติเมตรจนได้รับบาดเจ็บ ขณะนั้นผู้ตายยังพยายามจะเข้ามาทำร้าย ทำให้ตำรวจตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงสกัดไปที่ขาเพื่อหยุดยั้งสถานการณ์

ภายหลังผู้ก่อเหตุล้มลง เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เนื่องจากมีเลือดไหลออกมาก จึงประสานรถพยาบาลมารับเปลี่ยนถ่ายกลางทาง ทว่าเมื่อถึงริมถนนเพชรเกษมสายเก่า อาการทรุดหนักและเสียชีวิตในที่สุด

บุตรสาวผู้ตาย อายุ 25 ปี เดินทางมาดูศพด้วยความโศกเศร้า พร้อมระบุว่า พ่อมีอาการป่วยทางจิตเวช ต้องกินยาควบคุมอาการเป็นประจำ และปกติไม่เคยทำร้ายใคร วันเกิดเหตุเพียงนั่งดายหญ้าหน้าบ้าน โดยใช้มีดทำสวนเท่านั้น ไม่เข้าใจว่าใครแจ้งตำรวจว่าพ่อคุ้มคลั่งจนถูกยิงเสียชีวิต และยืนยันว่าจะดำเนินคดีเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ขณะที่ตำรวจตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบปลอกและกระสุนปืนขนาด 9 มม. รวมจำนวน 9 ปลอก และมีดเปื้อนเลือดตกอยู่ โดยเก็บไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด

ด้าน พ.ต.อ.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ชี้แจงว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการเข้าไประงับเหตุ เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวเคยมีปัญหาลักษณะนี้หลายครั้ง และครั้งนี้ผู้ตายถือมีดพยายามเข้าทำร้ายตำรวจ จึงจำเป็นต้องป้องกันตัวตามยุทธวิธี ยิงสกัดไปที่ขา ไม่ได้มุ่งหมายให้ถึงแก่ชีวิต อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการชันสูตรจากแพทย์นิติเวชเพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิต และจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

หน้าแรก » อาชญากรรม