กรณี นายศรชัย หรือบ่าวน้อย อายุ 46 ปี ต.นาคู่ อ.นาแก จ.นครพนม ใช้น้ำมันเบนซินเบนซินราดร่างนายสมเดช หรือปลั๊ก อายุ 53 ปี ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม ก่อนจะจุดไฟเผาย่างสดเพื่อนร่วมงาน และใช้อาวุธมีดยาวประมาณ 18 นิ้ว ฟันซ้ำที่ศีรษะอีก 2-3 ครั้ง โดยนายสมเดชหรือปลั๊กไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลนาแก ส่วนนายด่อนหรือบ่าวน้อยผู้ก่อเหตุ นั่งรอเจ้าหน้าที่อยู่ในโกดังร้าน ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายวัสดุ อุปกรณ์ก่อสร้าง ริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2033 สายนาแก-หนองญาติ โดยเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนหาข้อเท็จจริง จากนั้นได้นำตัวเข้าห้องขังที่อยู่หลังเคาน์เตอร์รับแจ้งเหตุ โดยมีกล้องวงจรปิดส่องไปยังห้องควบคุมติดตั้งจออยู่หน้าเคาน์เตอร์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา

ล่าสุด วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรก็ตกใจกันทั้งโรงพัก เมื่อพบนายด่อนผู้ต้องหาใช้เสื้อยืดแขนยาวผูกกับกรงเหล็กอัตวินิบาตกรรมในห้องขัง ในเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษ จึงกันพื้นที่ดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานนครพนม (พฐ.นครพนม) ตรวจสอบอย่างละเอียดทันที พร้อมรีคลิปวงจรปิดพบว่าในเวลาดังกล่าว นายด่อนลุกมาเกาะห้องขัง เดินวนไปวนมาเหมือนคิดอะไรอยู่ จากนั้นก็ถอดเสื้อยืดที่สวมมัดปมกับกรงเหล็กแขวนคอตัวเองในสภาพกึ่งนั่งกึ่งยืน

โดย ร.ต.ท.สมชาย กุมลา อายุ 58 ปี สิบเวร เปิดเผยว่าขณะเข้าเวรนายด่อนไม่มีท่าทีบ่งบอกว่าจะเครียด ก็ปกติเหมือนผู้ต้องหาทั่วไป ตอนเย็นญาตินำผ้าห่มมาให้ 1 ผืน ตนเห็นว่ามันบางอาจจะใช้ในสิ่งที่ไม่คาดคิด จึงให้ไปหาผ้าห่มผืนหนากว่านี้หน่อย แต่อนุโลมให้ผู้ต้องหาใส่เสื้อยืดแขนยาวเพราะอากาศเย็น นึกไม่ถึงจะกลายเป็นอุปกรณ์ใช้ผูกคอตัวเองเสียชีวิต

“ผมนั่งตรงนี้กินข้าวก็กินตรงนี้แทบไม่ได้ลุกไปไหน ระมัดระวังตลอด แต่ยังพลาดจนได้ ยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น เพราะต้องถูกตั้งกรรมการสอบสวนฯ” ร.ต.ท.สมชาย กุมลา สิบเวร กล่าว.

ต่อมา นายสมพงษ์ แก้ววงศ์สิงห์ ผู้ใหญ่บ้านหนองหอยน้อย หมู่ 10 ต.นาคู่ ได้พานางวันตา อายุ 56 ปี พี่สาวนายด่อนมารับศพน้องชายที่โรงพัก พร้อมเล่าว่าน้องชายเป็นคนนิสัยดี เป็นเสาหลักของครอบครัว ทำมาหากินเลี้ยงแม่ และไม่ได้แต่งงาน ส่วนสาเหตุที่คิดสั้นก็มีเพียงเรื่องเดียว คือมีปัญหากับนายปลั๊กเพื่อนร่วมงาน ที่ยกกระสอบปูนกระแทกใส่ศีรษะจนกระดูกคอเคลื่อน แต่ไม่มีคำขอโทษจากปากแม้แต่คำเดียว มีแต่คำพูดเยาะเย้ยตลอดเวลา น้องชายต้องไปพบแพทย์เกี่ยวกับกระดูก ด้วยการกายภาพบำบัดผ่านมาแล้ว 9 ครั้ง และครั้งที่ 10 ก็คือวันนี้(1 ตค.) แต่น้องก็ได้มาก่อเหตุสลดเสียก่อนยอมรับว่าเสียใจมาก

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของนายปลั๊ก ที่ญาติกำลังตระเตรียมสถานที่จัดงานศพ เนื่องจากร่างของนายปลั๊กถูกส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น คาดจะกลับถึงบ้านกลางดึกวันนี้

ด้าน นายประสิทธิ์ อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานและอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่าขณะกำลังปัดกวาดโกดัง นายปลั๊กวิ่งมากอดเอว จับนิ้วโป้งตนบิดไปมาจากอาการเจ็บปวดที่ถูกไฟไหม้ร่าง และมีรอยแผลถูกฟันที่ศีรษะ จนนิ้วโป้งตนบวมเป่ง ก่อนนายปลั๊กหมดแรงหงายหลัง ส่วนมูลเหตุยอมรับไม่รู้จริงๆ เพราะทั้งสองคนไม่มีท่าทีบ่งบอกว่าไม่ถูกกัน กินข้าวก็นั่งกินด้วยกัน

ส่วน นายสมชาย อายุ 70 ปี  เถ้าแก่ของผู้เสียชีวิตทั้งสอง เปิดเผยว่าในร้านมีลูกน้องรวมๆกันแล้ว 10 คน แบ่งหน้าที่รับผิดชอบกันไป ซึ่งนายด่อนและนายปลั๊กเป็นลูกน้องที่ตั้งใจทำงาน มีความรับผิดชอบต่องานที่ทำ เท่าที่เห็นเขาก็นั่งกินข้าวด้วยกันทุกครั้ง ไม่เห็นมีเรื่องทะเลาะหรือมีปากเสียงกัน เรื่องหยอกล้อก็ถือเป็นปกติ นายปลั๊กอาจหยอกเพื่อนแรงไป เพราะยกกระสอบปูนกระแทกใส่หัวนายด่อนจนข้อต่อกระดูกเคลื่อน และเหตุการณ์ก็ไม่น่ารุนแรงถึงขนาดนี้ ยอมรับเสียใจต่อครอบครัวทั้งสองมาก ตนก็จะช่วยเหลือตามกำลัง

โดยวันเกิดเหตุนายด่อนได้มานั่งรอนายปลั๊กที่โต๊ะแล้ว พอนายปลั๊กขับรถจักรยานยนต์เข้ามาจอด แต่ยังไม่ทันลงจากรถ นายด่อนก็ลุกขึ้นใช้น้ำมันเบนซินที่ซื้อมาจากปั๊มสาดใส่พร้อมจุดไฟแช็กเผาย่างสด และคว้ามีดไล่ฟันซ้ำ เหมือนโกรธแค้นสะสมมานานแรมปี