เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 10 พ.ย.ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง พล.ต.ต.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.สมฤกษ์ บุญค้ำ  พ.ต.อ.ทนุเนตร ปิตุเตชะ พ.ต.อ.วรวุฒิ ชัยเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.สภ.เมืองระยอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ ตร.ภ.จว.ระยอง และสภ.เมืองระยอง แถลงการจับกุมแก๊งบัญชีม้าตระเวนกดเงินในพื้นที่ อ.เมืองระยอง ได้ผู้ต้องหา 7 คน เงินสด 280,000 บาทเศษ อาวุธปืนสั้น 9 มม. 1 กระบอก แมกกาซีน 2 แม็ก กระสุนปืน 13 นัด สมุดบัญชีธนาคาร 5 เล่ม บัตรกดเงินเอทีเอ็ม จำนวน 12 ใบ โทรศัพท์มือถือ 16 เครื่อง แท็บเล็ต 2 เครื่อง รถยนต์เก๋ง 2 คัน 
 
พล.ต.ต.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.ระยอง เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจาก เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 8 พ.ย.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งมีหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งต่อมาทราบว่าเป็นภรรยาของ 1 ในแก๊งค์บัญชีม้า ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ที่ สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี ว่าถูกนายวุฒิศักดิ์ และ น.ส.กิ่งแก้ว กักขังในรถเก๋ง โตโยต้า ยาริส เอทีฟสีเทา หมายเลขทะเบียน จพ 511ชลบุรี อยู่บริเวณถนนสุขุมวิท ฝั่งขาออกเมืองระยอง ด้านหน้าศาลจังหวัดระยอง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง โดยส่งข้อมูลทางไลน์ให้ญาติแจ้งตำรวจเข้าช่วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงนำกำลังไปช่วยเหลือ กระทั่งสามารถติดตามรถคันดังกล่าวได้ที่บริเวณหน้าธนาคารออมสิน สาขามาบตาพุด ซึ่งผู้ต้องหากำลังตระเวนกดเงิน จึงเข้าจับกุมตรวจสอบภายในรถพบโทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 5 เล่ม บัตรกดเงินสด 12 ใบ อาวุธปืนสั้น 1 กระบอก จึงนำตัวมาสอบสวนขยายผลพบว่าเป็นเครือข่ายแก๊งค์สแกมเมอร์ชาวจีน อยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา-บางแสน โดยจะเข้ามาตระเวนกดเงินในพื้นที่ จ.ระยอง จึงวางแผนจับกุม กระทั่งเมื่อเวลา 21.45 น. วันที่ 9 พ.ย.ได้มีรถเก๋งโตโยต้ายาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน ขพ 7377 ระยอง ตามที่แจ้งขับเข้ามาในพื้นที่ ต.ตะพง อ.เมืองระยอง จึงตั้งด่านสกัดจับ ตรวจสอบพบชาวจีน 1 ราย ทราบชื่อคือ นายชู โกเหลียง น.ส.ศิรินญาและคนไทยอีก 3 คน ในรถ ตรวจค้นในรถพบเงินสด 132,870 บาท โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง 
    
สอบสวน น.ส.ศิรินญา ให้การว่า เป็นผู้ดูแลโทรศัพท์บัญชีม้า โดยได้รับการว่าจ้างจากชายชาวจีน ผ่านแอปพลิเคชัน เทเลแกรม ใช้ชื่อว่า 'เก้อเก้อ' โดยก่อนถูกจับกุมได้เดินทางพร้อมนายชู โกเหลียง และคนไทยอีก 3 คน ได้ตระเวนกดเงินในท้องที่ สภ.เมืองระยอง ผ่านระบบการถอนเงินไม่ใช้บัตรกดเงินเอทีเอ็ม 2 ครั้ง โดยเวลา 15.30 น. ที่ตู้เอทีเอ็มปั๊ม ปตท.อ.เมืองระยอง 100,000 บาท เวลา 20.00 น.ปั๊ม ปตท.เส้นทางมุ่งหน้าตะพง 30,000 บาท โดยส่งเงินให้กับนายชู โกเกลียง เป็นคนตรวจนับและส่งต่อให้แก๊งค์เครือข่ายคนจีนอีกทอด พร้อมจ่ายค่าตอบแทนให้ทีมบัญชีม้า ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สืบสวนขยายผลเพิ่มเติมจากโทรศัพท์นายชู โกเหลียง พบว่ามีการพูดคุยระหว่างกลุ่มชาวจีนผ่านแอปเทเลแกรมถึงรายละเอียดต่างๆ ของบัญชีม้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่ามีทั้งคนจีนที่อยู่ในไทย และต่างประเทศ และคนไทยที่ร่วมเครือข่าย ซึ่งจะมีการสอบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายต่อไป 
        
ต่อมามีนาวาโทสาคร อดีตทหารเรือเกษียณอายุราชการ ได้มาติดต่อขอรับเงินคืน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง ประสานให้มารับเงิน จำนวน 100,000 บาท คืน หลังถูกหลอกโอนเข้าบัญชีม้า โดย พล.ต.ต.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.ระยอง ส่งมอบคืนให้ โดยนาวาโทสาคร เล่าว่า ก่อนหน้านี้ได้หาเงินลงทุนในธุรกิจซื้อบ้านหลุดจำนองมารีโนเวทเพื่อขาย ได้เห็นแอปธนาคารแห่งหนึ่งในเฟสบุ๊คปล่อยกู้ดอกเบี้ยถูก จึงเข้าไปติดต่อผ่านไลน์หญิงคนหนึ่ง โดยถูกหลอกให้ทำธุรกรรมโอนเงินอ้างว่าบัญชีถูกล็อกครั้งแรกโอนไป 50,000 บาท ครั้งที่ 2 โอนไป 100,000 บาท พอครั้งที่ 3 จะโอนอีกเลยเอะใจถูกหลอก ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พลูตาหลวง ให้ตามจับคนร้าย กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง จับกุมตัวผู้ต้องหาได้ และพบว่าตนเป็นคนโอนเข้าบัญชีของแก๊งค์ดังกล่าว จึงได้ติดต่อให้มารับเงินคืน เบื้องต้นต้องขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผบก.ภ.จว.ระยอง ผกก.สภ.เมืองระยอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ ที่ได้ดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง กระทั่งสามารถติดตามเงินคืนมาได้จำนวนหนึ่งดังกล่าว