วันจันทร์ ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2568 13:21 น.

เศรษฐกิจ

เอสเอ็มอี ชิปปิ้ง เปิดแผนธุรกิจพัฒนาระบบขนส่ง

วันจันทร์ ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2562, 14.59 น.

เอสเอ็มอี ชิปปิ้ง เปิดแผนธุรกิจพัฒนาระบบขนส่ง

 

เอสเอ็มอี ชิปปิ้ง เปิดวิสัยทัศน์ พร้อมวางยุทธศาสตร์

รับปีหมู ตั้งเป้ายอดขายพุ่ง100 ล้านบาท มั่งใจผู้นำด้านขนส่งสินค้า ทั้งในไทยและต่างประเทศกว่า 200 ประเทศ

 

นายธวิทย์  เรืองรองปัญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอสเอ็มอี ชิปปิ้ง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ และการขนส่ง เปิดเผยว่า เปิดแผนแนวทางในปี2562  ด้านนโยบายเชิงบริหารงาน และการวางยุทธศาสตร์หลักของเอสเอ็มอีชิปปิ้ง ซึ่งจะนำเรื่องเทคโนโลยี ด้านดิจิทัล หรือแนวนโยบาย 4.0 เข้ามาใช้ในการพัฒนาระบบการขนส่ง เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็วในการรับบริการ เพิ่มความมั่นใจที่สินค้าจัดส่งไปถึงปลายทางตรงเวลาและปลอดภัย รวมถึงการบริหารต้นทุนต่า ภายใต้แนวนโยบาย Big Data SME Shipping 4.0 ทั้งนี้ เราพัฒนาและบริการผ่านระบบline : @shipping , facebook : SME shipping , website : http://www.smeshipping.com และ IG : shippingservice ซึ่งลูกค้าสามารถกดคลิ๊กเข้ารับการบริการได้ทันที มีเจ้าหน้าที่ไปรับสินค้าถึงหน้าบ้านท่าน พร้อมรับสิทธิสะสมพอยส์ ยิ่งสะสมมากยิ่งได้ส่วนลดพร้อมของสมนาคุณของแถมมากมาย 

 

ทั้งนี้ยังจะได้รับข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับระบบการขนส่ง เทคนิคการบริหารต้นทุนการขนส่ง ทาอย่างไรให้ต้นทุนต่ำ และเทคนิควิธีการด้านการส่งออก เรื่องระบบ แทรคกิ้ง และภาษีศุลกากรนาเข้าสินค้าในแต่ละประเทศ ซึ่งตรงจุดนี้ลูกค้าสามารถใช้โปรแกรมคำนวนค่าสินค้า น้าหนัก เวลาคำนวณเวลาการจัดส่งถึงปลายทางได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย ทั้งนี้ผู้เริ่มต้นธุรกิจกลุ่ม START UP เอสเอ็มอีชิปปิ้ง ยังให้คาปรึกษาด้านต่างๆ ในทุกเรื่องเกี่ยวกับขนส่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารต้นทุนการจัดส่งอย่างไรให้ต้นทุนต่า สินค้าทีความปลอดภัย ส่งถึงที่ปลายทางตรงเวลา เป็นต้น 

 

โดยช่องทางของบิ๊กดาต้า เอสเอ็มอีชิปปิ้ง นอกจากจะเก็บข้อมูลลูกค้าในการจัดส่งแล้ว เรายังมีการแบ่งเซ็กเมนต์เตชั่นลูกค้าแต่ละกลุ่มเพื่อการบริการที่ตรงใจและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ให้มากที่สุด เช่น กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยระดับไมโครเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการระดับกลาง ผู้ประกอบการรายใหญ่ และผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ เพื่อจัดส่งข่าวสารที่เกี่ยวข้อง และเชื่อมโยงทางธุรกิจที่เป็นประโยชน์ ไปให้อีกด้วยตลอดจนยังลดขั้นตอนด้านต่างๆ โดยลูกค้าแค่แจ้งชื่อนามสกุล หรือเบอร์โทร ระบบประมวลผลของบิ๊กดาต้าเรา ลูกค้าก็สามารถรับบริการได้ง่ายๆ อย่างรวดเร็ว เป็นต้น แนวทางนี้ตอบโจทย์ผู้ประกอบการยุคใหม่ ที่ส่วนใหญ่จะขายสินค้าออนไลน์ผ่านมาร์เก็ตเพลส ต่างๆ อาทิ อีเบย์ อาลีบาบา อะเมซอน หรือแม้กระทั่งเฟสบุค ไอจี ต่าง ๆ ล้วนต้องใช้ความคล่องตัว ความรวดเร็ว 

 

เอสเอ็มอี ชิปปิ้ง โดยเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งสินค้า ทั้งในไทยและต่างประเทศกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ผ่านบริษัทขนส่งชั้นนา อาทิ DHL EXPRESS, FEDEX EXPRESS และ TNT EXPRESS ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการทางธุรกิจที่ใช้ขนส่งกับเรา กว่า 600 ราย 

นายธวิทย์ กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายของเอสเอ็มอี ชิปปิ้ง มี 2 กลุ่มหลัก คือ 1.กลุ่มคนทั่วไป สัดส่วน 20 %2.กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ 80% อาทิ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั้งระดับกลางและรายย่อย  กลุ่มผู้ขายสินค้าออนไลน์ เช่น มาร์เก็ตเพลส ต่างๆ อาทิ อีเบย์ อาลีบาบา อะเมซอน หรือแม้กระทั่งเฟสบุค ไอจี ต่าง ๆ กลุ่มสตาร์อัพ หรือผู้ประกอบการที่พึ่งเริ่มต้นธุรกิจ 

          

ทั้งนี้จุดแข็งของเอสเอ็มอี ชิปปิ้ง ต้องยอมรับว่า การแข่งขันในธุรกิจการให้บริการด้านลอจิสติกส์ หรือการขนส่ง ทั้งรายเล็กรายใหญ่ มีจานวนมากขึ้น การแข่งขันก็มากขึ้นตามไปด้วยทั้งกลุ่มทุนไทยและต่างประเทศ สำหรับบริษัทเอสเอ็มอีชิปปิ้ง มั่นใจในการเป็นผู้นาด้านธุรกิจ เพราะด้วย 4 จุดแข็ง ของเรา คือ 1. การมอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในการส่งสินค้าไปยังปลายทางอย่างปลอดภัยและยังช่วยลดต้นทุนการส่งสินค้าอีกด้วย           

 

2. เพิ่มศักยภาพในการทางธุรกิจของลูกค้า โดยการส่งสินค้าที่รวดเร็ว ตรงเวลา ตรวจสอบได้และมีมาตรฐาน 

3. ช่วยลดภาระของลูกค้า ในการขนส่งด้านต่างๆ เช่น ช่วยดำเนินการด้านกรมศุลกากร, การแพ็กสินค้า

4. การช่วยลดต้นทุนค่าส่งออกของลูกค้ากลุ่มธุรกิจออนไลน์ และผู้ส่งออกรายใหม่ ได้มากกว่า 20% เนื่องจากเรามีปริมาณการส่งออกที่มากกว่าบริษัทส่งออกทั่วไป แถมยังให้คาแนะนาปรึกษาทุกขั้นตอนส่งออกต่างๆ อีกด้วย 

        

" ผมจึงมั่นใจว่าเอสเอ็มอี ชิปปิ้งยังสามารถครองใจลูกค้าเดิมอยู่ ในขณะลูกค้าใหม่ก็มาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เพราะเอสเอ็มอี ชิปปิ้ง ไม่เคยหยุดอยู่กับที่เลย เรายังมีการปรับกลยุทธ์ด้านการบริการอยู่ตลอดเวลา ให้ทันสมัย สอดรับกับเทรนด์ใหม่ๆ ในตลาด เพื่อตอบรับทุกความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป็นอย่างดีและครบวงจร"

            

ในอนาคตเตรียมขยายสาขาอีก 5 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเป็นจุดรับสินค้าได้รวดเร็วขึ้น รวมถึงในปีนี้ได้เตรียมทำแอพพลิเคชั่นเพื่อให้ลูกค้าติดตั้งและใช้งานได้สะดวกขึ้นไม่ว่าจะเป็นการติดตามสินค้าข้อมูล ในขณะที่ในปีนี้จะมีการนำแขทบ็อท (Chat Bot) เข้ามาใช้เพื่อให้ตอบสนองด้านการสื่อสาระหว่างลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น คาดว่าการเติบโตในปีนี้จะทะลุ 100 ล้านบาท จากเมื่อปีที่ผ่านมามีรายได้ประมาณ 80 ล้านบาท