เศรษฐกิจ
ซ้อมมือบริหารจัดการน้ำ ฝนทิ้งช่วง ก่อนถึงฤดูแล้งใหญ่
วันเสาร์ ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2562, 08.46 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

ซ้อมมือบริหารจัดการน้ำ
ฝนทิ้งช่วง ก่อนถึงฤดูแล้งใหญ่
ฝนทิ้งช่วง เป็นช่วงเวลาความเป็ นความตายของเกษตรกรเพราะความหมายของฝนทิ้งช่วงคื อระยะเวลาที่ฝนตกในแต่ละวันไม่ ถึง 1 มิลลิเมตรต่อเนื่อง 15 วันในฤดูฝน เนื่องจากความกดอากาศต่ำเลื่ อนขึ้นไปทางเหนือ พาดผ่านตอนใต้ของจีน ทำให้ฝนในไทยน้อย พูดจาประสาชาวบ้าน ฝนทิ้งช่วงคือฝนไม่ตกติดต่อกัน 15 วัน โดยคาดว่าจะเกิดช่วงปลายเดือนมิ ถุนายนต่อเนื่องถึงต้นเดื อนกรกฎาคม 2562
ผลกระทบเกิดขึ้นกับพืชที่ต้ องการน้ำมาก อย่างข้าวในนาที่เพิ่งหว่านดำต้ องยืนต้นแห้งเหี่ยวตาย โดยเฉพาะพื้นที่ นอกเขตชลประทานที่อาศัยน้ำฝนเป็ นหลัก ส่วนในเขตชลประทานยังได้รับน้ำ จากแหล่งน้ำต้นทุนที่สำรองไว้ ระดับหนึ่งได้
“ตอนนี้การคาดการณ์สภาพฝนยังไม่ เปลี่ยนแปลง ฝนทิ้งช่วงยังเหมือนเดิมที่ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์” ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำ แห่งชาติ (สทนช.) กล่าวเมื่อถามถึงสถานการณ์ฝนทิ้ งช่วงในปีนี้

“เราใช้ทุกเครื่องมือที่มีอยู่ และโครงการที่คณะรัฐมนตรีเพิ่ งอนุมัติ” ดร.สมเกียรติย้ำอีกที
เครื่องมือที่มีอยู่ได้แก่แหล่ งน้ำต้นทุนต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว และเสริมด้วยการปรับเกณฑ์การบริ หารจัดการน้ำในเขื่อน เพื่อเก็บน้ำเอาไว้ให้ได้มากที่ สุด เพราะเชื่อว่าไม่เพียงแต่ฝนทิ้ งช่วงเท่านั้น แต่ฤดูฝนปีนี้ปริมาณฝนจะน้อยกว่ าค่าเฉลี่ย และน้อยกว่าปีที่แล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลาง และภาคอีสานตอนกลาง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำ ในเขื่อนลากยาวถึงฤดูแล้งถั ดไปทันที การเก็บน้ำทุกหยดจึงหวั งลดผลกระทบให้น้อยลง
ในขณะโครงการที่ได้รับอนุมัติ จากคณะรัฐมนตรีนั้น ส่วนหนึ่งเป็นการขุดลอกแหล่งน้ำ ในพื้นที่แห้งแล้งเพื่อเพิ่มปริ มาณน้ำต้นทุน 28 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมกันนั้นจะต้องมีการจั ดทำฝายชลอน้ำ 30,000 แห่งเพื่อเพิ่มความชื้นในพื้นที่ และเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ในอนาคต ซึ่งทั้งสองอย่างต้องดำเนิ นการให้แล้วเสร็จช่วงต้นฝนนี้
นอกจากนั้น การทำฝนหลวงโดยกรมการฝนหลวงและก ารบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็เป็นส่วนหนึ่ งในความพยายามลดผลกระทบฝนทิ้งช่ วง และปริมาณฝนน้อยทั้งฤดู ซึ่งความพยายามนี้เห็นผล อย่างเช่น เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากระดับน้ำในเขื่อนต่ำ กว่าระดับน้ำใช้การ (Dead Storage) ขณะนี้ค่อยๆ สูงขึ้นเหนือระดับ Dead Storage หลังทำฝนหลวง
“ช่วงนี้สภาพอากาศเป็นใจ มีความชื้นพอที่จะให้เมฆก่อตั วทำฝนหลวงได้ พื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำที่มี ปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% เราพยายามทำฝนหลวง เพื่อยกระดับน้ำให้มากขึ้น”
เลขาธิการ สทนช. กล่าวด้วยว่า การจัดระบบการปลูกพื ชของกระทรวงเกษตรฯ ก็ยังจำเป็น และถ้าปรับปรุงจากเดิม โดยเฉพาะขอบเขตการปลูกพืชที่แน่ นอน ก็จะมีส่วนช่วยให้การบริหารจั ดการน้ำดีขึ้นด้วย โดยไม่ต้องส่งน้ำไปยังพื้นที่ เพาะปลูกที่ไม่อยู่ในแผนจั ดสรรน้ำ
สำหรับพื้นที่เสี่ยงฝนทิ้งช่ วงหลักๆ น่าจะได้แก่เขื่อนในภาคกลาง ได้แก่ เขื่อนกระเสียว จ.สุพรรณบุรี เขื่อนทับเสลา จ.อุทัยธานี และอาจรวมถึงเขื่อนป่าสักชลสิ ทธิ์
“เขื่อนทับเสลามีคณะกรรมการร่ วมบริหารจัดการน้ำ JMC อาจใช้เพื่ออุปโภคบริโภคอย่ างเดียว โดยอาศัยน้ำฝนในการเพาะปลูกแทน”

ส่วนในภาคอีสาน ต้นน้ำชีและต้นน้ำมูลยังคงต้ องเน้นการสร้างความรับรู้อย่ างต่อเนือง แต่คาดว่าในเดือนสิงหาคม น้ำจะค่อยๆ ยกระดับดีขึ้นชัดเจน
ในขณะที่ความหวังในการมีพายุ จรเพิ่มเติมจาก 1-2 ลูก เพื่อเพิ่มปริมาณฝน ดร.สมเกียรติกล่าวว่า จากการพยากรณ์ยังคงมีจำนวน 1-2 ลูกเท่าเดิม และแม้เกิดพายุไซโคลน “วายุ” ในประเทศอินเดียที่ผ่านมาก็ไม่ ส่งผลดีมาถึงประเทศไทยแต่อย่ างใด
สถานการณ์ของฝนทิ้งช่วงปีนี้ จึงเป็นบททดสอบแรกก่อนถึ งบททดสอบใหญ่ยาวนาน ในฤดูแล้งถัดไป 1 พฤศจิกายน 2562 -30 เมษายน 2563
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่