ปลัดคค.เร่งกระบวนการจัดทำตั๋วร่วม 

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ว่าที่ประชุมได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม  เพื่อหารือในการพัฒนาระบบตั๋วร่วม ประกอบด้วย สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ (รฟม.) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด  (แอร์พอร์ตเรลลิ้งค์)  บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BST ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานผิดชอบในการพัฒนาระบบตั๋ว เพื่อเชื่อมต่อระบบกับการใช้บัตรโดยสารระบบอื่นที่มีในปัจจุบัน และบัตรธุรกรรมการเงิน เช่น บัตรเครดิต และอีมันนี่ อย่างไรก็ตาม จากการรายงานตัวเลขจากธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่ามียอดผู้ถือบัตรเครดิตประมาณ 90 ล้านใบ ส่วนประเภทบัตรอีมันนี่ประมาณ 80 ล้านใบ ทั้งนี้ การพัฒนาระบบการEMVก็มีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากบางส่วนได้พื้นฐาน จากผู้ใช้บริการที่ถือบัตรเครดิตและอีมันนี่ ก็จะเชื่อมระบบง่ายมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม จากการรายงานขั้นตอนเพื่อจัดทำระบบดังกล่าวนั้น จะต้องใช้ระยะเวลานานกว่า 18 เดือน ซึ่งมองว่าเป็นระยะเวลาที่นานพอสมควร เกรงว่าจะไม่ตอบโจทย์การเดินทางที่สะดวกสบายเท่าที่ควร

“โดยได้หารือกับผู้ประกอบการเดินรถโดยเฉพาะBTS ที่ให้บริการบัตรโดยสารแรบบิท หากทุกผู้ประกอบการจะดำเนินการให้บัตรโดยสารที่มีอยู่ทั้งบัตรแรบบิทของBTS  /เอ็มอาร์ทีพลัสของ รฟม. บัตรแอร์พอร์ตลิงค์ รวมทั้งบัตรแมงมุมที่มีผู้ใช้บริการกับระบบในปัจจุบัน โดยให้บัตรโดยสารทุกระบบสามารถนำไปใช้ข้ามระบบได้เลย ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นแนวทางที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ ที่สำคัญผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกสบาย ที่ประชุมจึงได้มอบให้ สนข.ไปทำการบ้านมาภายใน 2 สัปดาห์ โดยจะต้องไปดู 1.เรื่องการระบบข้ามระบบโดยจะต้องใช้ระยะเวลานานหรือไม่    2.การใช้วงเงินลงทุนเท่าไหร่และส่วนใดบ้าง ทั้งนี้ จะต้องสรุปและรายงานในที่ประชุมอีกครั้ง หากเปรียบเทียบระยะเวลาทำและเงินลงทุนไม่สูงมากเมื่อเทียบกับตั๋วร่วมระบบ EMV ก็จะให้ที่ประชุมอนุมัติดำเนินการทันที บัตรอีเอ็มวีที่ รฟม.ดำเนินการจะดำเนินการต่อไป”นายชัยวัฒน์ กล่าว