วันพุธ ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 08:11 น.

เศรษฐกิจ

ผู้ว่าฯ รฟท.ประกาศพลิกโฉมรถไฟสู่ผู้นำขนส่งทางราง

วันพฤหัสบดี ที่ 02 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 18.18 น.

ผู้ว่าฯ รฟท.ประกาศพลิกโฉมรถไฟสู่ผู้นำขนส่งทางราง

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังเปิดตัวครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่าสำหรับนโยบายและยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคตการเป็นผู้นำระบบราง เพื่อยกระดับการขนส่งของประเทศนั้น ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่รวมถึงตรวจเยี่ยมพนักงานทั่วประเทศ ทั้งนี้ เป็นการจัดระเบียบเรื่องของที่พักอาศัยของบุคลากรในพื้นที่บ้านพักรถไฟกม.11  รวมถึงการจัดระเบียบผู้บุกรุกพื้นที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อความเป็นอยู่ที่สะดวกและปลอดภัย รวมถึงการบริหารจัดการพื้นที่รถไฟเพื่อเป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนวิภาวดีรังสิตอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีแผนยุทธศาสตร์หลัก 3 ด้านที่จะขับเคลื่อนการรถไฟฯต่อจากนี้ เพื่อให้กลับมาแข็งแกร่งและเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบด้วย 1.การเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการขนส่งทางราง 2.การเพิ่มรายได้และการลดค่าใช้จ่าย 3.การขับเคลื่อนและการยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อให้สอดคล้องตามวิสัยทัศน์ของการรถไฟฯในการ“เป็นผู้ให้บริการระบบรางของรัฐที่ดีที่สุดในอาเซียนในปี ๒๕๗๐”

สำหรับการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการขนส่งทางรางนั้น ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ /โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง และส่วนต่อขยาย /โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการรถไฟความเร็วสูง (กรุงเทพ – นครราชสีมา) และโครงการรถไฟเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา) การพัฒนาพื้นที่รอบสถานีใหญ่ อาทิ สถานีกลางบางซื่อ สถานีแม่น้ำ สถานีมักกะสัน เป็นต้น สำหรับการเพิ่มรายได้และการลดค่าใช้จ่ายการรถไฟฯจะมุ่งเน้นในเรื่องของการสร้างรายได้ทั้งในธุรกิจหลัก (Core Business) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร และธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก (Non Core Business) สำหรับการสร้างรายได้เสริมให้การรถไฟฯ จากสินทรัพย์ที่ไม่อยู่ในสภาพใช้งาน เช่น ซากสิ่งของเหลือใช้ ตู้รถไฟเก่า หมอนไม้ เศษเหล็ก ต้องหารูปแบบการบริหารจัดการดังกล่าว 

นอกจากนี้ การขับเคลื่อนและการยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน ด้วยการพัฒนาองค์กรและการจัดการให้เชื่อมโยงอย่างบูรณาการ โดยจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้กับพนักงานในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำในการยกระดับโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ การพัฒนาความรู้ ความสามารถของบุคลากร เพื่อให้มีศักยภาพตรงตาม Competency ที่การรถไฟฯ ต้องการ และการ Reskill & Upskill พนักงาน โดยมีส่วนสำคัญคือ การรักษาองค์ความรู้ โดยการสร้างระบบถ่ายทอดและเก็บรักษาองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น (Knowledge anagement) รวมถึงการรถไฟฯ มีแนวทางในการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานการบริการให้ดีและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นายนิรุฒ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีค่าโง่โฮปเวลล์ หลังจากที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมยืนยันจะต่อสู้คดีดังกล่าวถึงที่สุด  โดยยืนยันว่าคดีนี้ การรถไฟฯ จะดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยจะต่อสู้คดีไม่มีถอย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การรถไฟฯ ได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลางไปแล้ว ขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยอยู่ระหว่างรอฟังคำสั่งของศาลปกครองกลาง ว่าจะมีคำสั่งว่าอย่างไร