วันจันทร์ ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2568 12:47 น.

เศรษฐกิจ

ทอท.ไฟเขียวAOTGA รับงานบริการภาคพื้น-คลังสินค้า สนามบินภูเก็ต

วันศุกร์ ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2564, 16.00 น.
ทอท.ไฟเขียวAOTGA รับงานบริการภาคพื้น-คลังสินค้า สนามบินภูเก็ต
 
 
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.พร้อมสนับสนุนบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)  ในการประกอบกิจการบริการภาคพื้นและคลังสินค้า ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต ภายใต้กระบวนการในประกาศคณะกรรมการ นโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการโครงการร่วมลงทุนที่มีมูลค่าต่ำกว่าที่กำหนดในมาตรา 9 (5,000 ล้านบาท) แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การร่วมลงทุนฯ พ.ศ.2562  ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 และประกาศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
 
ตามที่ ทอท. ได้ให้สิทธิประกอบการบริการภาคพื้นท่าอากาศยานภูเก็ตแก่การบินไทยมีอายุสัญญาตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2563 - 29 เมษายน 2564 โดยได้ผูกอยู่กับสัญญาอนุญาตให้บริการคลังสินค้าท่าอากาศยานภูเก็ตด้วยนั้น เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2563 การบินไทยได้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ทำให้ไม่มีสิทธิได้รับเลือกเป็นคู่สัญญาของรัฐตามประกาศคณะกรรมการ นโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เรื่อง ลักษณะของเอกชนที่ไม่สมควรให้ร่วมลงทุนในโครงการร่วมลงทุน พ.ศ.2562 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 โดยเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2563 การบินไทยได้มีหนังสือขอต่ออายุสัญญาประกอบการฯ แต่เนื่องจากจะขัดกับประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุน ระหว่างรัฐและเอกชนฯ ข้างต้น
 
ทั้งนี้ ปัจจุบันได้มีประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เรื่อง ลักษณะของเอกชนที่ไม่สมควรให้ร่วมลงทุนในโครงการร่วมลงทุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2564 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564 โดยยกเว้นให้นิติบุคคลที่ยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการหรือถูกศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ แต่เป็นนิติบุคคลที่หน่วยงานของรัฐมีทุนรวมอยู่ด้วยเกินกว่าร้อยละ 25 และเป็นหรือเคยเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐในกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะตามมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนฯ พ.ศ.2562 สามารถร่วมลงทุนกับหน่วยงานรัฐได้ แต่การให้สิทธิประกอบการยังคงต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีดำเนินโครงการร่วมลงทุนที่มีมูลค่าต่ำกว่าที่กำหนดในมาตรา 9 ฯ
 
อย่างไรก็ตาม การให้บริการภาคพื้นและคลังสินค้าท่าอากาศยานภูเก็ตเป็นกิจกรรมที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการให้บริการของสนามบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมให้บริการภาคพื้น ซึ่งมีการบินไทยเป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียว หากสิ้นสุดสัญญา ณ วันที่ 29 เมษายน 2564 จะไม่มีผู้ประกอบการรายใดให้บริการเลย และ ทอท.มีความกังวลในเรื่องความพร้อมในการให้บริการของการบินไทยทั้งในส่วนอุปกรณ์ และบุคลากร ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการให้บริการได้ทันทีที่เที่ยวบินระหว่างประเทศเริ่มกลับมาทำการบินตามปกติ อันจะกระทบต่อความต่อเนื่องทางธุรกิจและการเปิดประเทศ
 
ซึ่งเพื่อสร้างเสถียรภาพในการดำเนินกิจการให้บริการภาคพื้นและคลังสินค้าท่าอากาศยานภูเก็ตให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดชะงัก และเพื่อป้องกันความเสียหายอันอาจเกิดขึ้นกับประเทศโดยรวม ทอท. จึงจำเป็นต้องให้ บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOTGA ซึ่งมีความพร้อมเข้าประกอบกิจการแทน และเพื่อรองรับในทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น แม้ว่าการประกอบการของบริษัท AOTGA ในปัจจุบันจะอยู่ในสภาวะขาดทุนก็ตาม และเมื่อผู้โดยสารกลับมาเป็นปกติและสามารถทำกำไรได้แล้ว การบินไทยก็สามารถร่วมทุนกับ ทอท.ในกิจกรรมดังกล่าวได้
 
โดยคณะกรรมการ ทอท. ได้มีมติเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2563 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเปิดโอกาสให้การบินไทยสามารถเข้าร่วมลงทุนกับบริษัทร่วมของ ทอท.ได้ในอนาคต หรือหาก การบินไทยไม่ประสงค์จะร่วมทุนฯก็สามารถยื่นความจำนงเข้าขอประกอบกิจการตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนดได้ต่อไป