วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 03:05 น.

เศรษฐกิจ

คมนาคม MOUต่ออายุความร่วมมือไทย-เยอรมัน

วันพฤหัสบดี ที่ 02 ธันวาคม พ.ศ. 2564, 18.42 น.
คมนาคม MOUต่ออายุความร่วมมือไทย-เยอรมัน 
 
 
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลัง การลงนามต่ออายุความตกลงว่าด้วยการต่ออายุแถลงการณ์ร่วมแสดงเจตจำนงว่าด้วยการพัฒนาความร่วมมือด้านรถไฟ ระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ ถือว่าสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม โดยใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้เร่งรัดโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่ประเทศไทยใช้เทคโนโลยีของประเทศเยอรมันนี ประกอบด้วย รถไฟฟ้าสีแดง  สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง สายสีชมพู สายสีเหลือง และ สายสีส้ม นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ทั่วประเทศ  ซึ่งในอนาคตจะนำมาใช้พัฒนารถไฟความเร็วสูงด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 เส้นทาง หากดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถเชื่อมเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านคมนาคมในภูมิภาคต่อไป  
 
 
ทั้งนี้ ประเทศเยอรมนีถือเป็นหนึ่งในผู้นำด้านอุตสาหกรรมระบบรางที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยได้วิจัยค้นคว้าและผลิตเทคโนโลยีระบบรางมาอย่างยาวนาน หลายโครงการรถไฟฟ้าก็ได้ใช้เทคโนโลยีจากประเทศเยอรมนี มั่นใจว่าฝ่ายเยอรมนีจะสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบรางของประเทศไทยเพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย สามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างเท่าเทียมเช่นเดียวกับในเยอรมนี 
 
 
นอกจากนี้ นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวถึงโครงการรถไฟลาว-จีน ซึ่งจะมีการเปิดตัวเดินขบวนรถไฟเที่ยวปฐมฤกษ์ ในวันที่  3 ธันวาคมนี้  ในส่วนของกระทรวงคมนาคมก็ได้ทำการศึกษารูปแบบการเชื่อมโยงโครงการโดยมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ประกอบด้วย สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กรมขนส่งทางราง (ขร.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รวมถึงบริษัทที่ปรึกษาดำเนินการโดยกระทรวงคมนาคมได้ รับนโยบายจากรัฐบาล สำหรับข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าจำนวนขบวนที่จะวิ่งให้บริการยังไม่มาก ทั้งนี้ ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ช่วง ขอนแก่น –นครราชสีมา ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมจะเสนอแผนต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่าไม่น่าจะเกินไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 จะสามารถดำเนินการจัดหาบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการได้ ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงขณะนี้บริษัทที่ปรึกษาอยู่ระหว่างการสำรวจออกแบบรายละเอียด ซึ่งจะเร่งรัดเพื่อให้สรุปรายละเอียดก่อนจะเสนอครม.ภายในปี 2565 อย่างไรก็ตาม คาดว่าทั้ง 2 โครงการ ภายในปี 2570 จะต้องเปิดให้บริการได้ถึงหนองคายได้  นอกจากนี้ จะต้องมีการก่อสร้างสะพานเพื่อรองรับโครงการรถไฟซึ่งจากเดิมรับรองน้ำหนักได้ 15 ตัน จะต้องเพิ่มเพื่อรับรองน้ำหนักได้ถึง 30 ตัน  เบื้องต้นก็ได้ดำเนินการศึกษาไว้แล้ว