นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี (สุวินวงศ์) ระยะทาง 37.5 กม. 32 สถานี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตรรวม 23 สถานี ว่าได้รับมอบจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้กรมขนส่งทางราง ตรวจสอบรายละเอียดโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดให้บริการรถไฟฟ้า โดยที่ประชุมได้สรุปความพร้อมและปัญหาของโครงการ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินความพร้อมเรื่องของระบบเชื่อมต่อ (ฟีดเดอร์) เพื่อดูแลความสะดวกให้กับประชาชนในการเดินทาง โดยจะต้องมีการปรับการให้บริการของสายรถประจำทาง (รถเมล์ขสมก.) รวมถึงจุดเชื่อมต่อระหว่างระบบ สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูคืบหน้าประมาณ 91% ส่วนสายสีเหลืองคืบหน้าประมาณ 86% อย่างไรก็ตาม คาดว่าทั้ง 2 โครงการจะสามารถเปิดทดสอบให้บริการบางช่วงที่แล้วเสร็จประมาณเดือนธันวาคม 2565 สำหรับสายสีชมพู จะสามารถเปิดช่วงสถานีหลักสี่-ร่มเกล้า และสายสีเหลือง ช่วงหัวหมาก-เทพารักษ์ ส่วนก็สร้างทั้งหมดคาดว่าจะเสร็จได้ภายในเดือนมิถุนายน 2566 ก่อนจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ต่อไป สำหรับค่าโดยสารจะต้องอยู่ระหว่างเริ่มต้น 14บาท สูงสุดไม่เกิน 42บาท

         

“สำหรับปัญหาที่พบนั้น ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือ โควิด-19 ส่งผลให้ขาดแคลนแรงงาน และเชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่ต้องเดินทางเข้ามาเพื่อดำเนินการเรื่องระบบ นอกจากนี้ ยังกระทบไปยังประเทศผู้ผลิตขบวนรถรถไฟฟ้าจึงไม่สามารถส่งมอบขบวนรถได้ อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามีปัญหาเรื่องการส่งมอบพื้นที่ซึ่งขณะนี้พบว่ายังติดปัญหาช่วงสถานีศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ โดยจะต้องเร่งประสานเรื่องดังกล่าวกับกรมทางหลวง (ทล.) การไฟฟ้านครหลวง และการประปานครหลวง ซึ่งจะต้องดำเนินการก่อสร้างทางขึ้น-ลง บริเวณดังกล่าว ส่วนการเชื่อมต่อทั้งหมดได้มอบหมายให้หน่วยงานตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดว่า เหลือจุดใดที่ยังไม่พร้อมก็ให้เร่งรัดดำเนินการ คาดว่าจะสามารถสรุปแผนทั้งหมดได้ ภายในอีก 2เดือน “ นายสรพงศ์ กล่าว

       

ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างส่วนต่อขยายสายสีชมพู เข้าเมืองทองธานีภายหลังที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติเรียบร้อยแล้วนั้น ขณะนี้ผู้รับจ้างยังไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ เนื่องจากจะต้องรอประกาศราชกิจจานุเบกษาในการอนุมัติเพิ่มเติมช่วงต่อขยายก่อน จึงจะสามารถเข้าพื้นที่ดำเนินการได้