วันเสาร์ ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567 09:12 น.

เศรษฐกิจ

"เฉลิมชัย "ชวนเที่ยวงานเทศกาลผลไม้และของดีประจำปี2565 อำเภอแกลง

วันเสาร์ ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2565, 17.00 น.

"เฉลิมชัย "ชวนเที่ยวงานเทศกาลผลไม้และของดีประจำปี2565 อำเภอแกลง มุ่งเน้นให้เกษตรกรรักษาคุณภาพและมาตรฐานการผลิตให้ตรงตามความต้องการของตลาด ชูมาตรการ Zero COVIC Rayong Fruit เพื่อขยายโอกาสสู่ตลาดภายในและภายนอกประเทศ ขณะที่ ทูตเกษตรจับมือทูตพาณิชย์ นำทัพสินค้าผลไม้ไทยบุกตลาดกว่างซี โชว์ศักยภาพผลไม้ไทยเป็นหนึ่งในจีน

วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม 2565 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานเทศกาลผลไม้และของดีอำเภอแกลง ประจำปี 2565 ปีที่ 40 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 17 พฤษภาคม 2565 โดยมีนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายธารา ปิตุเตชะ นายบัญญัติ เจตนจันทร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดระยอง และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ สถานีบริการน้ำมันบางจาก (ไต๋ ปิโตรเลียม) พร้อมมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ชนะการประกวดผลไม้ มอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้สนับสนุนการจัดงาน มอบป้ายมาตรการด้านความปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในผลไม้เพื่อการส่งออกของจังหวัดระยอง (Zero COVIC Rayong Fruit : ZCRF) เยี่ยมชมการจำหน่ายผลไม้ ชิมทุเรียนหลากสายพันธุ์จากสวนบ้านเรา หมู่ที่ 8 ต.กระแสบน อ.แกลง จ.ระยอง และร่วมกิจกรรมทอดทุเรียนกระทะยักษ์ 

โดยนายเฉลิมชัยกล่าวว่าการจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงแหล่งผลิตผลไม้ที่ดี มีคุณภาพ เพิ่มศักยภาพในด้านการจำหน่ายผลไม้ของเกษตรกร สร้างขวัญและกำลังใจแก่เกษตรกรที่ผลิตผลไม้เป็นอาชีพหลัก ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับอำเภอแกลงอีกทางหนึ่งได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

สำหรับปริมาณผลผลิตของไม้ผล 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ของเดือนเมษายน 2565 ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ระยอง จันทบุรี และตราด พบว่า ผลผลิตของผลไม้ทั้ง 4 ชนิด มีจำนวนรวม 1,189,522 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีจำนวน 903,865 ตัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 32) เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น และมีฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2564 ส่งผลให้เอื้อต่อการออกดอกและติดผล แม้จะมีภัยธรรมชาติจากลมพายุช่วงปลายปี 2564 และเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม 2565 ที่ทำให้ดอกและลูกร่วงเสียหาย แต่ในภาพรวมปริมาณผลผลิต ยังคงมากกว่าปีที่ผ่านมา

โดยในส่วนผลผลิตได้ทยอยออกสู่ตลาดตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ และจะออกต่อเนื่องจนถึงกลางเดือนกันยายน 2565 โดยผลผลิตจะออกมากที่สุดช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 (คิดเป็นร้อยละ 51 ของผลผลิตทั้งหมด) ทำให้ผลผลิตผลไม้ไทยปีนี้อาจเพิ่มขึ้นถึง 32% กระทรวงเกษตรฯ จึงต้องเตรียมมาตรการรับมือ เพื่อไม่ให้ผลไม้กระจุกตัวและเกิดปัญหาราคาตกต่ำ ซึ่งในปีที่ผ่านมา ไทยส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 1.6 แสนล้านบาท โดยเฉพาะทุเรียนส่งออกทะลุแสนล้านเป็นครั้งแรก

ขณะที่มาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2565 ได้มีการบริหารจัดการผลไม้ทั้งระบบ เป็นมาตรการหลักในการขับเคลื่อน ประกอบด้วย 17 มาตรการ อาทิ 1) มาตรการเร่งรัดตรวจและรับรอง GAP ซึ่งมีเป้าหมายในปี 2565 ไม่ต่ำกว่า 120,000 แปลง 2) มาตรการช่วยผู้ประกอบการ หรือเกษตรกร หรือล้ง กระจายผลผลิตผลไม้ออกนอกแหล่งผลิต กิโลกรัมละ 3 บาท ปริมาณ 80,000 ตัน 3) มาตรการเสริมสภาพคล่องให้ผู้ส่งออกโดยจะช่วยเหลือดอกเบี้ย 3% และช่วยผู้ส่งออกที่ส่งออกผลไม้อีกกิโลกรัมละ 5 บาท ปริมาณ 60,000 ตัน 4) ร่วมบูรณาการระหว่างกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สนับสนุนให้มีการใช้พระราชบัญญัติเกษตรพันธสัญญา การทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าด้านผลไม้ โดยจะสนับสนุนให้มีการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อเกษตรกรได้ทราบว่าขายผลไม้ได้เท่าไหร่ มีคนซื้อที่มีหลักประกัน เซ็นสัญญาตามกฎหมายชัดเจนไม่ต่ำกว่า 30,000 ตัน และ 5) มาตรการส่งเสริมการบริโภคผลไม้ในประเทศ เป็นต้น

"การจัดงานในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์แก่พี่น้องเกษตรกรในด้านการจำหน่ายสินค้าการเกษตร และเป็นประโยชน์ในด้านการท่องเที่ยวในอำเภอแกลง จึงอยากให้เกษตรกรรักษาคุณภาพและมาตรฐานการผลิตให้ตรงตามความต้องการของตลาด ซึ่งจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับจังหวัด รวมถึงขยายโอกาสทางการตลาดไปสู่ภายในและภายนอกประเทศ และพัฒนาเป็นเกษตรอุตสาหกรรมและเกษตรท่องเที่ยวได้ และสำหรับการลงพื้นที่ในวันนี้ อยากมาร่วมแสดงความยินดีที่จังหวัดระยองประสบความสำเร็จที่ผลไม้ของจังหวัดระยอง โดยเฉพาะทุเรียน สามารถนำเงินเข้าจังหวัดมาได้กว่าหมื่นล้านบาทต่อปี และที่สำคัญเป็นเม็ดเงินที่มาถึงมือพี่น้องเกษตรกรโดยตรง จึงอยากมาร่วมยินดีกับความสำเร็จกับเกษตรกรและทุกภาคส่วน ที่ทำงานร่วมกันเพื่อให้ประสบความสำเร็จไปข้างหน้า และในอนาคตต้องการเพิ่มเงินในกระเป๋าให้กับพี่น้องเกษตรกรให้มากยิ่งขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ พร้อมจะเข้ามาสนับสนุนเกษตรกร และมุ่งที่จะสร้างความเข้มแข็งและสร้างรายได้ให้พี่น้องเกษตรกรทุกกลุ่มต่อไป" นายเฉลิมชัย กล่าว

ทูตเกษตรจับมือทูตพาณิชย์ นำทัพสินค้าผลไม้ไทยบุกตลาดกว่างซี โชว์ศักยภาพผลไม้ไทยเป็นหนึ่งในจีน 

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาผลไม้ล่วงหน้าในคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board)เปิดเผยว่าล่าสุด ฝ่ายเกษตร ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองหนานหนิง และบริษัท Shenzhen Pagoda Industrial Group จำกัด จัดงานเทศกาลผลไม้ไทย ประจำปี 2565 (Thai Fruit Festival 2022) ณ นครหนานหนิง ภายใต้ธีม “泰爱你” (ไทยรักคุณ) ระหว่างวันที่ 13 - 18 พฤษภาคม 2565 เพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการตลาดผลไม้ไทยทั้งในแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ 

การจัดงานเทศกาลผลไม้ไทยในครั้งนี้เป็นการบูรณการระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ ภายใต้นโยบาย “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน) เพื่อขับเคลื่อนให้ผู้บริโภคชาวจีนได้รู้จักผลไม้ไทยหลากหลายชนิด และสร้างความเชื่อมั่นในผลไม้ไทยที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารของจีนโดยเฉพาะในช่วงที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก ตลอดจนส่งเสริมการตลาดผลไม้ไทยผ่านหน้าร้านจำหน่ายผลไม้ของพาโกดาที่มีมากกว่า 5,000 สาขาทั่วจีน โดยในเขตฯ กว่างซีจ้วง มีจำนวน 78 สาขา และการส่งเสริมการตลาดผลไม้ไทยผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ผ่าน APP Pagoda และ mini program ใน wechat เพื่อตอกย้ำความเป็นอันดับหนึ่งของผลไม้ไทยในตลาดจีน

ซึ่งในโอกาสนี้ นายปรัตถกร แท่นมณี กงสุล (ฝ่ายเกษตร) ประจำนครกว่างโจว และนางสาววรรณลดา รัตนพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองหนานหนิง ได้เข้าร่วมกิจกรรม Live Streaming ผ่านแพลตฟอร์ม DOUYIN (Tik Tok จีน) ของพาโกดา แนะนำทุเรียนพันธุ์ชะนีและผลไม้ของไทย ซึ่งนอกจากจะมีรสชาติที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง รวมทั้งประชาสัมพันธ์คุณภาพมาตรฐานของผลไม้ไทยที่ส่งออกมายังประเทศจีน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคชาวจีน ซึ่งการ Live Streaming ครั้งนี้ ได้รับการตอบรับอย่างดีมากจากชาวจีน 

ทั้งนี้ ฝ่ายเกษตรฯ กว่างโจว ได้ร่วมกับบริษัท Pagoda จัดงานเทศกาลผลไม้ไทยมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 โดยได้เลือกจัดงานที่นครหนานหนิง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของบริษัท Pagoda ที่จัดงานเทศกาลผลไม้ไทยในนครหนานหนิง ด้วยเล็งเห็นว่าเขตฯ กว่างซีจ้วง เป็นประตูสู่อาเซียน โดยมีด่านนำเข้าผลไม้ไทยที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นด่านโหย่วอี้กวน ด่านตงซิง ด่านรถไฟผิงเสียง และด่านท่าเรือชินโจว ซึ่งจากสถิตการนำเข้าผลไม้ไทยมายังเขตฯ กว่างซีจ้วง ในปี 2564 พบว่า เขตฯ กว่างซีจ้วง มีการนำเข้าผลไม้ไทยเป็นอันดับที่ 2 รองจากมณฑลกวางตุ้ง โดยมีปริมาณการนำเข้า 315,768 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,465 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ จะช่วยประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทยที่มีหลากหลายชนิดให้ผู้บริโภคได้รู้จัก ส่งเสริมภาพลักษณ์ของผลไม้ไทย และผลักดันการขยายตลาดผลไม้ไทยในจีนผ่านเครือข่ายของร้านจำหน่ายผลไม้ของพาโกดาทั่วประเทศจีน