วันอาทิตย์ ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 12:48 น.

เศรษฐกิจ

กทท.โชว์ท่าเรือแหลมฉบังเฟส3 คืบหน้า5% มั่นใจไม่กระทบตามแผนแล้วเสร็จ

วันศุกร์ ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2565, 17.06 น.

กทท.โชว์ท่าเรือแหลมฉบังเฟส3 คืบหน้า5% มั่นใจไม่กระทบตามแผนแล้วเสร็จ

     

 

นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย  (กทท. ) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือแหลมฉบังระยะ 3 ว่าสำหรับความคืบหน้าภาพรวมอยู่ประมาณ 5% ซึ่งถือเป็นส่วนงานระยะแรก ล่าช้ากว่าคาดการณ์เล็กน้อยเนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 แต่ก็ยังถือว่าเป็นตามแผนที่กำหนด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทจ้างเหมากิจการร่วมค้าซีเอ็นเอ็นซีเป็นผู้ดำเนินโครงการฯ ในวงเงิน 21,230 ล้านบาท ได้ดำเนินการส่งมอบงานก่อสร้างงานทางทะเลในส่วนของงานพื้นที่ถมทะเล 1แล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินงานพื้นที่ถมทะเล 2 ประกอบด้วย การขนย้ายดินเลน การถมทราย คาดว่าจะส่งมอบพื้นที่ให้ กทท. ได้ภายในปี 2565 อย่างไรก็ตาม กิจการร่วมค้าซีเอ็นเอ็นซีมีแผนที่จะเพิ่มเรือ ขุดลอกอีก 3 ลำ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการขุด สำหรับพื้นที่ถมทะเล 3 เป็นในส่วนระบบรางและการส่งมอบพื้นที่ท่าเทียบเรือ F 1,000 เมตร ให้บริษัท จีพีซี อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล จำกัด เอกชนคู่สัญญา สามารถส่งมอบได้ตามสัญญาฯ ภายในกลางปี 2566 และส่งมอบพื้นที่ครบ 2,000 เมตร ประมาณพฤษภาคม 2568
         

นอกจากนี้ ในส่วนที่ 2 งานจ้างเหมา ก่อสร้างโครงการ ประกอบด้วย งานก่อสร้างอาคาร ท่าเทียบเรือ ระบบถนน และระบบสาธารณูปโภค มีวงเงินประมาณ 7,000 ล้านบาท กทท. จะเร่งรัดการดำเนินงานให้แล้วเสร็จตามแผนงาน ซึ่งในส่วนงานที่ 3 และ 4 งานก่อสร้างระบบรถไฟ และงานติดตั้งเครื่องจักและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำร่างทีโออาร์ เพื่อประกาศประกวดราคา โดยคาดว่าจะสามารถเปิดประมูลทั้ง 2ส่วน ภายในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2565 ก่อนส่งมอบพื้นที่ให้บริษัทจีพีซี ๆ เริ่มบริหารจัดการ ทลฉ. ระยะที่ 3 ภายในปี 2568 โดยตามแผนกำหนดโครงการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2564-2568
             

สำหรับโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญตามแผนพัฒนาพื้นที่ระเบียง เศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor เพื่อสนองตอบนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและระบบโลจิกติกส์ของประเทศให้ได้มาตรฐานในระดับสากล มูลค่าการลงทุน รวม 1.1 แสนล้านบาท แบ่งเป็น กทท. ลงทุน 50,000 ล้านบาท ขณะที่เอกชนลงทุน 60,000 หมื่นล้านบาท ระยะเวลาสัมปทาน 35 ปี (ท่าเทียบเรือ F) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้า ประกอบด้วยท่าเทียบ เรือตู้สินค้า จำนวน 4 ท่า สามารถรองรับตู้สินค้าได้ไม่ต่ำกว่า 7 ล้าน ที.อี.ยู. ต่อปี ท่าเทียบเรือรถยนต์ (RO/RO) 1 ท่า รองรับรถยนต์ได้ 1 ล้านคันต่อปี ท่าเทียบเรือบริการ และท่าเทียบเรือชายฝั่ง อย่างละ 1 ท่า ซึ่งจะทำให้ ทลฉ. มีขีดสามารถรองรับความจุตู้สินค้าเพิ่มขึ้นเป็น 18 ล้าน ที.อี.ยู. ต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 11 ล้าน ที.อี.ยู. ต่อปี นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมและการค้า ที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้า