วันอาทิตย์ ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2568 02:28 น.

เศรษฐกิจ

“ทำความรู้จัก Net Metering และ Net Billing ประเด็นขบคิดเพื่อการพัฒนากลไกที่ยั่งยืน”

วันศุกร์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2566, 11.47 น.
“ทำความรู้จัก Net Metering และ Net Billing ประเด็นขบคิดเพื่อการพัฒนากลไกที่ยั่งยืน” 
 
 
 
 
 
แม้จะผ่านพ้นเดือนเมษายนมาแล้วแต่อุณหภูมิประเทศไทยก็ยังสูงไม่ลดละไปพร้อมกับบิลค่าไฟฟ้าของเราหลายท่านอาจมีลองค้นหาวิธีการลดบิลค่าไฟฟ้า  และพบกับโฆษณาเชิญชวนติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ พร้อมผ่านตากับโครงการโซลาร์ภาคประชาชนและ Net metering
 
 
วันนี้เราจะนำท่านไปทำความรู้จัก Net Metering กัน
 
 
Net metering เป็นกลไกการสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากระบบโซลาร์เซลล์  เพื่อให้ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้สามารถนำไปหักลบกับปริมาณการ ใช้ไฟฟ้าที่ผู้ใช้รับจากระบบโครงข่ายไฟฟ้า ในช่วงเวลาที่ไม่ตรงกับความต้อง การใช้ไฟฟ้าจริงได้ กล่าวคือ หากหน่วยงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากระบบโซลาร์เซลล์ไม่ได้มีการใช้ไปในช่วงกลางวัน ก็สามารถเก็บหน่วยไฟฟ้าเอาไว้เพื่อนำไปหักกับหน่วยไฟฟ้าที่ต้องซื้อจากการไฟฟ้าในตอนกลางคืนได้ ข้อดีของกลไก Net metering ก็คือ อาจไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้าที่มีอยู่เดิมไปเป็นมิเตอร์แบบดิจิตอล  เนื่องจากมิเตอร์จานหมุนก็สามารถใช้ระบบดังกล่าวได้  เพราะหากไม่ได้ทำการล็อคเอาไว้  มิเตอร์จานหมุนจะสามารถหมุนกลับทางได้  ทำให้สามารถหักลบกลบหน่วยไฟฟ้าจากไฟฟ้าที่ผลิตใช้เองกับไฟฟ้าที่เราซื้อจากการไฟฟ้าได้เอง อนึ่งการหักลบกลบหน่วยเช่นนี้  มีความหมายในอีกนัยยะ ก็คือ แม้ว่าไฟฟ้าที่ผลิตได้จะไม่ได้ใช้งาน ณ เวลานั้น มูลค่าของไฟฟ้าดังกล่าวจะมีค่าเทียบเท่ากับราคาไฟฟ้าที่ซื้อจากการไฟฟ้านั่นเอง
 
 
เรามักจะคุ้นเคยกับคำว่า Net metering แต่ประเทศไทยเรายังไม่ได้นำกลไก Net metering มาใช้จริง แต่เราใช้กลไก Net billing ภายใต้โครงการโซลาร์ภาคประชาชน อย่างไรก็ดี ซึ่งอาจไม่สำคัญเท่ากับความเข้าใจ ต่อการทำงานกลไกนี้
 
 
ในต่างประเทศ Net billing เป็นกลไกที่พัฒนาจาก Net metering เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับมูลค่าไฟฟ้าที่ไหลเข้าสู่ระบบโครงข่ายให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปในอนาคตได้ง่าย  รวมถึงใช้เป็นกลไกช่วยบริหารต้นทุนการรับซื้อไฟฟ้าของผู้ให้บริการไฟฟ้าในพื้นที่นั้นๆ  กลไก Net billing ช่วยประนีประนอมปัญหาข้อถกเถียงเรื่องมูลค่าของไฟฟ้าจากระบบโซลาร์เซลล์ที่ไหลเข้าระบบโครงข่ายไฟฟ้าว่าควรมีค่าเท่าใด  โดยภายใต้กลไก Net billing นี้ ผู้กำหนดนโยบายสามารถกำหนดมูลค่าของไฟฟ้าจากระบบโซลาร์เซลล์ที่ไหลเข้าระบบโครงข่ายไฟฟ้าให้แตกต่างจากอัตราค่าไฟฟ้าที่ผู้ใช้ซื้อจากระบบไฟฟ้าได้ ทั้งนี้ หากกลไก Net billing มีการกำหนดมูลค่าไฟฟ้าที่ไหลเข้าระบบโครงข่ายเท่ากับอัตราค่าไฟฟ้าที่ผู้ใช้ซื้อจากระบบจะเสมือนว่ากำลังใช้กลไก Net metering นั่นเอง อย่างไรก็ดี ปัจจุบันการกำหนดมูลค่าของไฟฟ้าที่ไหล เขาระบบโครงข่ายไฟฟ้าในหลายประเทศมักต่ำว่าอัตราค่าไฟขายปลีก และการใช้กลไกนี้จำเป็นต้องทำการเปลี่ยนแปลงมิเตอร์ไฟฟ้าเป็นมิเตอร์แบบดิจิตัลเพื่อให้มิเตอร์สามารถวัด ปริมาณไฟฟ้าที่ซื้อจากการไฟฟ้าและไฟฟ้าที่ไหลเข้าสู่ระบบไฟฟ้าที่แต่ละเวลา  เพื่อมาคำนวณค่าไฟฟ้าสุทธิในภายหลังได้
 
 
ปัจุบันการใช้  Net metering และ Net billing  มักใช้ส่งเสริมการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์เพื่อเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองเป็นหลัก  ไม่ได้เน้นให้ผลิตเพื่อการขายไฟฟ้า อย่างไรก็ดี การใช้กลไกทั้งสองกลไกดังกล่าวแม้ว่าจะมีข้อดีและข้อเสียต่างกัน  แต่ก็ทำให้เกิดข้อโต้แย้งระหว่างผู้ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์และการไฟฟ้าในประเด็นต่างๆ  ทั่วโลก  ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้กำกับดูแลกิจการไฟฟ้าต้องช่วยหาทางออก  โดยตัวอย่างประเด็นที่ยังเป็นที่ถกเถียงประกอบด้วย
 
           
• มูลค่าของไฟฟ้าจากระบบโซลาร์เซลล์ที่ไหลเข้าระบบโครงข่ายไฟฟ้า กับมูลค่าไฟฟ้าที่ซื้อจากการไฟฟ้าควรมีค่าเท่ากันหรือไม่?
           
โดยหลักการการกำหนดมูลค่าของไฟฟ้าที่ไหลเข้าระบบโครงข่ายไฟฟ้าควรขึ้นกับมูลค่าที่แท้จริงที่อาจก่อให้เกิดผลดีหรือผลเสียได้ เช่น หากไฟฟ้าที่ไหลเข้าระบบโครงข่ายก่อให้เกิดประโยชน์กับระบบโครงข่าย เช่น ช่วยลดกำลังสูญเสีย  หรือลดการลงทุนระบบโครงข่ายเพิ่ม เป็นต้น มูลค่าไฟฟ้าที่ไหลเข้าระบบอาจสูงกว่ามูลค่าไฟฟ้าที่ซื้อจากการไฟฟ้าก็ได้  แต่หากไฟฟ้าที่ไหลเข้าระบบโครงข่ายไม่ก่อให้เกิดผลดี  มูลค่าของไฟฟ้าจากระบบโซล่าเซลล์ก็ไม่ควรจะสูงกว่าต้นทุนในส่วนค่าเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าโดยพิจารณาจากการผลิตไฟฟ้าจากระบบโซลาร์เซลล์จะช่วยลดต้นทุนของระบบไฟฟ้าเฉพาะในส่วนค่าเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าเท่านั้น  เพราะผู้ติดตั้งก็ยังต้องใช้งานระบบโครงขายระบบไฟฟ้าอยู่
 
           
•โครงข่ายระบบไฟฟ้าที่ได้สร้างไปแล้วก่อนมีระบบโซลาร์เซลล์จะมีการเก็บต้นทุนคืนยังไง?
               
ในการวางแผนก่อสร้างหรือขยายโครงข่ายระบบไฟฟ้านั้น  ไม่ว่าจะเป็นโนโครงสร้างกิจการไฟฟ้าแบบใด การไฟฟ้าหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบจะมีการคาดการณ์ความต้องการ ใช้ไฟฟ้าล่วงหน้า และก่อสร้างระบบผลิตและส่งไฟฟ้า เพื่อให้ไปถึงหน้าบ้านผู้ใช้ไฟฟ้าได้ทั่วถึงที่สุด  ค่าใช้จ่ายในการลงทุนส่วนนี้มักจะทยอยเก็บคืนจากผู้ใช้ไฟฟ้าผ่านหน่วยจำหน่ายไฟฟ้าที่มีการประมาณไว้ล่วงหน้า  แต่หากการเก็บเงินลงทุนคืนไม่เป็นไปตามเป้าอันเนื่องมาจากหน่วยจำหน่ายไฟฟ้าที่ลดลง  ก็ส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงินของไฟฟ้าหรือผู้ให้บริการได้ในการพัฒนาธุรกิจและให้บริการได้
 
           
•ผลกระทบกับคนไม่ติดระบบโซลาร์เซลล์จะเป็นยังไง?
             
ประเด็นนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการจักเก็บต้นทุนคืนของการไฟฟ้าหรือผู้ให้บริการ  เนื่องจากการให้บริการไฟฟ้าไม่ได้มีแต่ต้นทุนจากเชื้อเพลิงเท่านั้น  แต่ยังมีต้นทุนคงที่จากโครงข่ายระบบไฟฟ้า (เสาไฟฟ้า  สายไฟฟ้า  หม้องแปลง  มิเตอร์ ฯลฯ) ด้วย  ซึ่งการไฟฟ้าหรือผู้ให้บริการมักจะทยอยเก็บต้นทุนส่วนนี้คืนจากผู้ใช้ไฟฟ้าผ่านทางหน่วยจำหน่ายไฟฟ้า  การที่หน่วยจำหน่ายไฟฟ้าส่วนหนึ่งหายไปจากการที่ผู้ใช้บางส่วนผลิตไฟฟ้าใช้เอง  จะทำให้ต้นทุนการลงทุนถูกเกลี่ยให้กับหน่วยจำหน่ายไฟฟ้าที่ยังคงเหลืออยู่ในระบบ  ซึ่งระดับผลกระทบจากการเกลี่ยหน่วยนี้ขึ้นอยู่กับโครงสร้างกิจการไฟฟ้า เช่น ภายใต้โครงสร้างกิจการไฟฟ้าแบบแบ่งความเสี่ยงให้การไฟฟ้า หรือผู้ให้บริหารร่วมรับอย่างในประเทศออสเตรเลียนั้น  ผู้ที่ไม่มีโอกาสติดระบบโซลาร์เซลล์อาจได้รัลผลกระทบช้ากว่า  เพราะการไฟฟ้าหรือผู้ให้บริการต้องหาทางอื่นในการหาทุน คืนก่อนที่จะร้องขอปรับอัตราค่าไฟฟ้า      กับหน่วยงานกำกับดูแลกิจการไฟฟ้า  แต่สำหรับประเทศไทยที่มีโครงสร้างกิจการไฟฟ้าเป็นแบบส่งผ่านต้นทุนไปสู่ผู้บริโภคนั้น  ผู้ที่ไม่มีโอกาสติดระบบโซลาร์เซลล์จะได้รับผลกระทบหากไม่มีการปรับโครงสร้างกิจการหรืออัตราค่าไฟฟ้า  อย่างน้อยโครงสร้างค่าไฟฟ้าควรปรับให้สะท้อนกับโครงสร้างต้นทุนการลงทุนและปริมาณผู้ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์  เพื่อไม่ให้ผู้ที่ไม่มีโอกาสติดระบบโซลาร์เซลล์จะต้องแบกรับต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ถูกกระจายไปในค่าไฟฐานและค่าเอฟที (Ft) ส่วนหนึ่งแทน
 
 
นี่เป็นข้อกังวลเพียงส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการมีระบบโซลาร์เซลล์จะเห็นได้ว่า  มีผลกระทบกว้างขวางที่ควรพิจารณาเพื่อการปรับปรุงแก้ไข ทั้งเกี่ยวกับด้านโครงสร้างกิจการไฟฟ้า การเงิน และเทคนิค อย่างไรก็ดีประเด็นปัญหาต่างๆเหล่านี้ไม่ควรถูกหยิบยกมาเพื่อขัดขวางการส่งเสริมการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์  แต่ควรจะนำมาถกเกียงเพื่อหาทางแก้ไขปรับปรุงอนาคต
 
 
"Net metering Net billing เป็นเพียงกลไกหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ใช้ไฟฟ้ามีอำนาจในการเลือกแหล่งผลิตไฟฟ้าได้  แต่ยังจำกัดเฉพาะกลุ่ม การส่งเสริมให้ผู้ใช้ไฟฟ้ามีทางเลือกยังมีรูปแบบกลไกการสนับสนุนอื่นๆ  และคำถามที่น่าชวนคิดต่อคือมีนโยบายหรือกลไกอะไรที่ทำให้คนที่ซื้อไฟฟ้าจากระบบโครงข่ายไฟฟ้าก็สามารถเลือกแหล่งผลิตไฟฟ้าได้เอง  และทำอย่างไรจึงจะทำให้เกิดความเป็นธรรมทุกภาคส่วน ในธุรกิจไฟฟ้าทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการรวมถึงการไฟฟ้าเอง" ดร.สิริภา จุลกาญจน์ สถาบันวิจัยพลังงาน