รถไฟคุมเข้มอำนวยความสะดวกช่วงปีใหม่

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย ผู้บริหารกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่ใช้บริการรถไฟทางไกลและรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงภายในพื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถไฟและขบวนรถไฟที่ให้บริการประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยมี นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รฟฟท. ให้การต้อนรับ และเป็นประธานเปิดโครงการ “ปีใหม่ปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน” โดยมี นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุเมาไม่ขับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ให้การต้อนรับและเข้าร่วมเปิดโครงการฯ 

ทั้งนี้ ตามที่มีนโยบายสร้างนวัตกรรมใหม่การเดินทาง โดยให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมบูรณาการความร่วมมือเชื่อมโยงการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ระหว่างรถไฟ รถไฟฟ้า รถ บขส. รถ ขสมก. โดยยึดความต้องการเดินทางของประชาชนเป็นศูนย์กลาง และให้ทุกหน่วยงานจัดสรรระบบขนส่งสาธารณะที่มีอยู่เป็นทางเลือกให้ประชาชนใช้บริการ เพื่อรองรับความต้องการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ มีความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทาง และไม่มีผู้โดยสารตกค้างในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นข่าวที่นำมาซึ่งความเศร้าเสียใจแก่ญาติมิตรของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ แม้ว่าหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจะร่วมกันรณรงค์ป้องกันอย่างเต็มที่ แต่สถิติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บก็ยังสูงอยู่ จากที่เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ คุณหมอแท้จริง ศิริพานิช ได้รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ปี 2566 พบว่ามีมากถึง 317 คน และมีผู้บาดเจ็บ 2,437 คน 

กระทรวงคมนาคมในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลการคมนาคมขนส่งทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ มีความห่วงใยต่อปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมในการเมาแล้วขับ โทรแล้วขับ ง่วงแล้วขับ ขับรถเร็ว ขับรถฝ่าฝืนกฎจราจร ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุจราจรแทบทั้งสิ้น

จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น กระทรวงคมนาคมจึงได้ระดมเจ้าหน้าที่ทั้งจากกรมการขนส่งทางบก กรมท่าอากาศยาน กรมเจ้าท่า กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และอีกหลาย ๆ หน่วยงาน ในสังกัดกระทรวงคมนาคม เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างเต็มที่ เพื่อให้คนไทยทุกคนได้เดินทางฉลองปีใหม่อย่างปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางถนน

 อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ รฟท. ได้จัดแผนอำนวยความสะดวกและปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชน ไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้างและบูรณาการเชื่อมต่อการเดินทาง โดย รฟท. ได้จัดเตรียมความพร้อมพ่วงตู้โดยสารจนเต็มหน่วยลากจูงในขบวนรถประจำ จำนวน 214 ขบวน/วัน และเพิ่มขบวนรถเสริมพิเศษช่วยการโดยสาร จำนวน 12 ขบวน สามารถรองรับการเดินทางของผู้โดยสารไม่ต่ำกว่า 100,000 คน/วัน ซึ่งเพียงพอและไม่มีผู้โดยสารตกค้าง ส่วนมาตรการด้านความปลอดภัย ได้เน้นย้ำให้เพิ่มความเข้มงวดเรื่องดูแลความปลอดภัย เพื่อสร้างความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร ตรวจสอบความพร้อมขบวนรถให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังความปลอดภัยจากกล้องวงจรปิด CCTV ตามสถานีและบนขบวนรถทั่วประเทศ พร้อมเข้มงวดในการวัดระดับแอลกอฮอล์ สารเสพติดของพนักงานก่อนปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์บนขบวนรถและบริเวณสถานีรถไฟ 

นอกจากนี้ รฟท. ได้จัดตั้งศูนย์ปลอดภัยทั่วประเทศ รับแจ้งเหตุและประสานงานต่าง ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2566 รวมถึงขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่น จัดอาสาสมัครเฝ้าระวังทางผ่านเสมอระดับรถไฟ - รถยนต์ ที่มีความเสี่ยง หรือบริเวณที่เป็นชุมชนหนาแน่น เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันเหตุทั้งทางถนนและทางรถไฟ ขณะเดียวกันได้ประสานความร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการตั้งศูนย์รักษาความปลอดภัยบนขบวนรถไฟทุกขบวน โดยการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจมาปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ตรวจตราความเรียบร้อยบนขบวนรถ และจัดเจ้าหน้าที่ รฟท. พนักงานรักษาความปลอดภัยช่วยดูแลเพิ่มอีกหนึ่งทาง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสารในการเดินทาง