กฟผ.ศึกษาการนำเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด ผลิตไฟฟ้าป้อนโรงไฟฟ้าแม่เมาะ  300 เมกะวัตต์ คาดใช้พื้นที่ปลูกไม้โตเร็ว 3 แสนไร่ ระบุเล็งเสนอกระทรวงพลังงาน เพื่อให้บรรจุเป็นการผลิตไฟฟ้าชีวมวลไว้ในแผนพีดีพีฉบับใหม่

 

 

นายชัยวุฒิ หลักเมือง ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. อยู่ระหว่างศึกษาโครงการนำเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด (wood pellets) มาผลิตไฟฟ้า เบื้องต้นจะนำ wood pellets มาเป็นเชื้อเพลิงป้อนโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ในหน่วยการผลิตที่หมดอายุเป็นหลัก โดยมีขนาดกำลังผลิตไฟฟ้า 300 เมกะวัตต์ 

 

โดยการผลิตไฟฟ้าจาก wood pellets ดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่เป็นสาเหตุของโลกร้อน และยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ไทยบรรลุเป้าหมาย ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี ค.ศ. 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี ค.ศ.2065 

 

 

สำหรับไฟฟ้าที่ผลิตได้ในอนาคตจะขายนำเข้าระบบไฟฟ้าของประเทศ ดังนั้นโครงการดังกล่าวจะต้องนำเสนอกระทรวงพลังงาน เพื่อให้บรรจุไว้ในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาวของประเทศ หรือ PDP ฉบับใหม่ ที่กระทรวงพลังงานกำลังอยู่ระหว่างการจัดทำแผนดังกล่าว 

 

 

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ที่ผ่านมา กฟผ. ได้ลงนามทึกข้อตกลงความร่วม (MOU) กับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) เพื่อศึกษาพื้นที่ที่มีศักยภาพสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลป้อนให้กับโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ในช่วงเดือน ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งทาง อ.อ.ป. จะเป็นผู้ประสานชุมชนเพื่อจัดหาพื้นที่และปลูกพืชโตเร็ว สำหรับนำมาทำ wood pellets เป็นเชื้อเพลิงให้หน่วยผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ 

 

 

โดยคาดว่าจะใช้พื้นที่เพาะปลูกประมาณ 3 แสนไร่ สำหรับการผลิตไฟฟ้า 300 เมกะวัตต์ โดยหากสามารถเริ่มปลูกได้ในปี 2567 นี้ น่าจะเริ่มตัดไม้เพื่อผลิตเป็น  wood pellets ได้ในอีก  3 ปีข้างหน้า 

 

 

นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับการใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยในปี 2567 นี้ อาจจะเกิดยอดการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) ของประเทศอีกครั้งในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศไทยเติบโตขึ้นทำให้ยอดการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้น รวมทั้งมีการใช้ไฟฟ้าจากยานยนต์ไฟฟ้า (EV) มากขึ้น ประกอบกับมีการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากแผงโซลาร์เซลล์มากขึ้นด้วย ดังนี้พีคไฟฟ้าอาจจะไปเกิดขึ้นในช่วงกลางคืนได้ 

 

 

อย่างไรก็ตามในปี 2567  กฟผ. จะมีการผลิตไฟฟ้าเข้าระบบจาก “โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำ หรือ โรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริด (Hydro-floating Solar Hybrid)”  ที่เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น กำลังผลิตไฟฟ้า 24 เมกะวัตต์ โดยจะเข้าระบบในเดือน มี.ค. 2567 ด้วย