ทอท. นำร่องรถแท็กซี่EVต้นแบบ ก่อนใช้เต็มรูปแบบ 6แห่งอากาศยาน

นายกีรติ  กิจมานะวัฒน์  กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ทอท. ได้ออกมาตรการจูงใจให้สมาชิกผู้ขับรถรับจ้างสาธารณะที่ให้บริการท่าอากาศยานหลักทั้ง 6 แห่งของ ทอท. ปรับเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้า EV Taxi โดยดำเนินการติดตั้งสถานีให้บริการเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง ใช้เวลาชาร์จเพียง 30 นาที  พร้อมร่วมมือกับผู้ประกอบการให้เช่ารถ EV Taxi คิดอัตราค่าเช่ารถในราคาที่ถูกกว่า รถแท็กซี่ที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ประมาณ 150-300 บาทต่อคันต่อวัน และช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานในราคาชาร์จไฟเพียง 400 บาท สามารถวิ่งให้บริการได้กว่า 400 กิโลเมตร โดยตั้งเป้าหมายภายในสิ้นปีนี้จะมีรถ EV Taxi ให้บริการภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประมาณ 1,000 คัน ทั้งนี้ปัจจุบันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีรถแท็กซี่ให้บริการประมาณ 4,000 คัน รถเมล์ ประมาณ 400 คัน และรถที่ให้บริการในพื้นที่ Airside อีกประมาณ 2,000 คัน เพื่อรองรับแนวโน้มยานยนต์ไฟฟ้าในวงกว้างมากขึ้น ทอท. ยังมีโครงการติดตั้ง EV Charging Station ทั้งในพื้นที่ Airside, Landside และ Custom Free Zone รวม 7 จุด  และในเดือนเมษายนนี้ (67) ทอท. จะเริ่มติตตั้งหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ ในพื้นที่ลานจอดรถสาธารณะ เพื่อนำพลังงานมาใช้หมุนเวียนในการผลิตกระแสไฟฟ้ารองรับยานยนต์ EV และการประกอบกิจการของ ทอท. โดยตั้งเป้าภายในปี 2567 ระบบ ECO SYSTEM จะครอบคลุมการใช้งาน ผลักดันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสู่ท่าอากาศยานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม(Green Airport) ต้นแบบแห่งแรกของไทย

นายกีรติ  กล่าวว่า ทอท. พร้อมผลักดันความร่วมมือด้านการคมนาคมขนส่งของไทย สู่การเป็นคาร์บอนต่ำตามนโยบายของรัฐบาล โดยภายในปีนี้ จะร่วมมือกับ ขสมก. เปิดตัวรถเมล์ EV ที่วิ่งให้บริการระหว่างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เชื่อมกับท่าอากาศยานดอนเมือง และยังร่วมมือกับ ทอท. บริษัทลูก AEA ในการผลิตน้ำมันอากาศยานที่ยั่งยืน หรือ SAF (ซาร์ป)(sustainable aviation fuels) เ SAF ภายในประเทศไทย ที่ปัจจุบันประเทศไทยยังต้องนำเข้า น้ำมัน SAF จากประเทศสิงคโปร์ โดยคาดว่าระหว่างปี 2568-2569  ประเทศไทยจะสามารถผลิตและจ่ายน้ำมัน SAF  ให้กับอุตสาหกรรมการบินได้เพียงพอต่อความต้องการ เพื่อรองรับปริมาณเที่ยวบินสู่สหภาพยุโรป