วันเสาร์ ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 14:11 น.

เศรษฐกิจ

“ออทก้า” เปิดตัว “ศูนย์มัลติโมดอล” ขนส่งสินค้าแบบไร้รอยต่อ

วันพฤหัสบดี ที่ 05 กันยายน พ.ศ. 2567, 16.08 น.

“ออทก้า” เปิดตัว “ศูนย์มัลติโมดอล” ขนส่งสินค้าแบบไร้รอยต่อ

 

นายสิริวัฒน์ โตวชิรกุล ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด (บพท.) หรือ AOTGA (ออทก้า) ผู้ให้บริการภาคพื้นท่าอากาศยาน และบริการคลังสินค้าในท่าอากาศยาน (Cargo Terminal) เปิดเผยภายหลังเปิดตัว ‘ศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า’ หรือ ‘Multimodal Transportation Center’ ณ เขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (โซน 3) จากที่กรมศุลกากรได้อนุญาตให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เป็นผู้จัดตั้ง ศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้มอบหมายให้ บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ บพท. เป็นผู้ดำเนินการศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า 

 

 

 

 “การเปิดศูนย์มัลติโมดอลถือเป็นมิติใหม่ด้านการขนส่งครบทุกรูปแบบ เพื่อรองรับฮับสินค้าของภูมิภาค อย่างไรก็ตาม จะต้องรอ6เดือน จึงจะประเมินว่าจะมีการขยายได้อย่างไรทั้งพื้นที่ให้บริการ และในหัวเมืองหลัก เบื้องต้นสามารถรองรับปริมาณการขนส่งได้กว่า 50,000 ตัน/ปี เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ของไทยสู่การเป็น Aviation Hub ของภูมิภาค พร้อมจับมือ 3 บริษัท เช่น FedEx, DHL และ AGS และคาดว่าจะโตเพิ่ม 10-15% ทั้งนี้ มีลูกค้าอยู่ในมือประมาณ 10เจ้า สำหรับรายได้ในปี 2567 ประมาณ 3,000 ล้าน แบ่งเป็นภาคพื้นที่ 2,500 ล้าน บริการทำความสะอาด 500 ล้านบาท โดยเป็นการให้บริการ 3สนามบิน เช่นสนามบินนานชาติภูเก็ต /สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ และตั้งเป้าว่าในปี 2568 จะมีรายได้รวมจะเพิ่มเป็น 3,800 ล้านบาท”นายสิริวัฒน์  กล่าว

 

 

สำหรับการเปิดศูนย์มัลติโมดอล ถือเป็นศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้าแห่งแรกในไทย ที่มีรูปแบบสมบูรณ์ซึ่งการขนส่งสินค้า เข้า-ออกมีการขนส่งทุกรูปแบบการขนส่งทุกประเภท ทั้งทางบก ราง น้ำ อากาศ การรวมตู้สินค้า และการเก็บรักษา พร้อมดำเนินพิธีการทางศุลกากรเบ็ดเสร็จในจุดเดียว สร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ หนุนการเติบโตของ E-Commerce ยกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาคอย่างแท้จริงด้วยงบลงทุนกว่า 150 ล้านบาท บนเนื้อที่กว่า 4,872 ตารางเมตร ศูนย์มัลติโมดอล แบ่งเป็นพื้นที่ให้บริการ 2 ส่วน ได้แก่  1. Fixed Area พื้นที่ สำหรับผู้ประกอบการขนส่งภาคเอกชนที่เป็นผู้ร่วมประกอบกิจการศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า และ 2. Public Area พื้นที่ที่ทาง AOTGA ให้บริการเอง ทั้งนี้ตั้งเป้าให้บริการกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการขนส่งทั้งในและต่างประเทศที่เป็นตัวแทนในการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Freight Forwarder) และ ผู้ประกอบการของเร่งด่วน (Express Consignment) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นจากการมุ่งเน้นใช้ประเทศไทยเป็น HUB ในกลุ่มประเทศ CLMV และโฟกัสไปยังกลุ่มสินค้า E-Commerce จากปัจจัยเกื้อหนุนด้านการบิน และเครือข่ายการบินที่เชื่อมโยงสู่ทวีปอื่นๆ โดยเฉพาะทวีปยุโรป นอกจากนี้ AOTGA ยังได้นำนวัตกรรมที่ทันสมัยมาให้บริการในศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า อาทิ ระบบติดตามทางศุลกากรจากด่านศุลกากรมายังศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้าด้วยระบบกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ (E-lock System) และระบบควบคุมสินค้าคงคลัง (E-Inventory)

 

 นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี กรมศุลกากร เปิดเผยว่า การจัดตั้ง ‘ศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า’ หรือ ‘Multimodal Transportation Center’ ณ เขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (โซน 3) นี้ จัดตั้งขึ้นตามประกาศกรมศุลกากร ที่ 115/2564 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า และเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค ซึ่งนับเป็นความร่วมมือที่สร้างปรากฎการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่จะช่วยสนับสนุนกระบวนการนำเข้าและส่งออกสินค้าให้ได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน ช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการดำเนินพิธีการทางศุลกากร ทำให้ Ecosystem มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งกรมศุลกากรมีความยินดีให้การสนับสนุนภาคเอกชนและตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าในระดับภูมิภาค