วันศุกร์ ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568 17:34 น.

เศรษฐกิจ

กทท.อัพเดทแหลมฉบังเฟส3คืบหน้า 63%

วันจันทร์ ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2568, 09.26 น.

กทท.อัพเดทแหลมฉบังเฟส3คืบหน้า 63%

 

      

นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3  ว่าขณะนี้ภาพรวมโครงการก่อสร้างถมทะเลอยู่ที่ 63%  ถือว่ายังเป็นไปตามแผนคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในกลางปี2569  โดยจะมีการส่งมอบพื้นที่ให้กับกลุ่มกิจการร่วมค้า GPC เข้ามาดำเนินการในเดือน พ.ย.2568  ทั้งนี้ ตามแผนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 จะเปิดให้บริการได้ในปี 2571

      

“สำหรับโครงการดังกล่าว หากแล้วเสร็จจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้า ประกอบด้วย ท่าเทียบเรือตู้สินค้า จำนวน 4 ท่า สามารถรองรับตู้สินค้าได้ไม่ต่ำกว่า 7 ล้าน ที.อี.ยู. ต่อปี, ท่าเทียบเรือรถยนต์ (RO/RO) 1 ท่า รองรับรถยนต์ได้ 1 ล้านคันต่อปี, ท่าเทียบเรือบริการ และท่าเทียบเรือชายฝั่ง อย่างละ 1 ท่า (ท่าเทียบเรือ E ในอนาคต) ซึ่งจะทำให้ท่าเรือแหลมฉบังมีขีดสามารถรองรับความจุตู้สินค้าเพิ่มขึ้นเป็น 18 ล้าน ที.อี.ยู. ต่อปีในปี 78 “

       

ทั้งนี้ ปัจจุบันท่าเรือแหลมฉบังมีขีดสามารถรองรับความจุตู้สินค้าอยู่ที่ 11 ล้าน ที.อี.ยู. ต่อปี และเมื่อโครงการท่าเทียบเรือ F ส่วนที่ 1 (F1) แล้วเสร็จ จะสามารถรองรับความจุตู้สินค้าเพิ่มอีก 2 ล้าน ที.อี.ยู. รวมเป็น 13 ล้าน ที.อี.ยู. จากนั้นจะเพิ่มขึ้นอีก 2 ล้าน ที.อี.ยู. เมื่อดำเนินการท่าเทียบเรือ F ส่วนที่ 2 (F2)  รวมเป็น 15 ล้าน ที.อี.ยู. ซึ่งกทท. จะไปวางแผนบริหารจัดการเพื่อเพิ่มตู้สินค้ามากขึ้น โดยการเปลี่ยนถ่ายสินค้าถ่ายลำ (Transhipment) จากพื้นที่ EEC ไปยังระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลาง(Hub) และประตูเศรษฐกิจในการขนส่งสินค้า (Gateway) ต่อไป นอกจากนี้ ยังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมและการค้า ที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมหรือเป็นท่าเรือสีเขียว (Green Port) ในเวลาเดียวกันเพื่อสนองตอบนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ของประเทศให้ได้มาตรฐานในระดับสากลอีกด้วย